เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
ลักษณะพฤกษศาสตร์ของมะกิ้ง
เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ยาวประมาณ ๓o เมตร ยอดอ่อนสีน้ำตาลออกแดงเล็กกว่า และ ใบ เป็นใบเดี่ยว เนื้อหนาคล้ายแผ่นหนัง กว้าง ๑๗ – ๑๘ เซนติเมตร ยาว ๑๒ – ๑๕ เซนติเมตร แผ่นใบหยักลึก แบ่งเป็นห้าแฉก (รูปที่ ๒) เส้นใบสีเขียวออกเหลือง หรือสีน้ำตาลออกแดง ก้านใบยาว ๒.๕ เซนติเมตร ดอกมีสีขาวครีม มีผลสด กลม แป้น มีเนื้อ ขนาด ๑๕ – ๑๘ เซนติเมตร ผลแก่มีคราบนวล เมล็ด ๖ – ๘ เมล็ด รูปรี ยาว ๕ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์จากมะกิ้ง โดยนำผลอ่อนมาต้มสุก รับประทานในส่วนของผลที่แก่จัดจะหล่นจากต้น เนื้อผลจะย่อยสลายไปเอง เหลือเพียงเมล็ดมะกิ้ง เป็นส่วนที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์ เนื้อในเมล็ดมะกิ้ง มีสีขาวขุ่น มีน้ำมันมาก เนื้อในเมล็ดมะกิ้งสามารถรับประทานได้ นิยมนำไปย่างไฟให้สุก น้ำมันจากเนื้อในเมล็ดมะกิ้งใช้ในการทาผิวเพื่อป้องกันผิวแห้ง แตกลายและใช้เนื้อผลเป็นส่วนผสมในยาตำรับพื้นบ้าน เนื้อในเมล็ด มีความชื้น โปรตีนและไขมันร้อยละ ๑๑.๕๓ ๒๖.๖๙ และ ๓๓.๕๘ ตามลำดับ ซึ่งไขมันส่วนใหญ่เป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัวร้อยละ ๒๗.๓๑ มีวิตามินอีในรูปของ alpha-tocopherol จำนวน ๑๑.o๘ มก./๑ooกรัม ลักษณะการเจริญเติบโตในป่าดิบเขาที่ระดับความสูง ๘oo - ๑,ooo เมตร ในระบบนิเวศแบบป่าดิบแล้ง เลื้อยพันอยู่กับต้นไม้ใหญ่ มีมือจับที่แข็งแรง อยู่ตามริมห้วย หรือบริเวณที่มีความชุ่มชื้น ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
