โรคการสะสมของแคลเซียมไพโรฟอสเฟต หรือโรคเกาต์เทียม เป็นโรคข้ออักเสบที่ค่อนข้างใหม่ ไม่เป็นที่รู้จัก มีสาเหตุจากการสะสมของผลึกแคลเซียมไพโรฟอสเฟตบริเวณข้อ ทำให้เกิดอาการอักเสบ มีอาการบวมแดง และเจ็บปวด การรักษาในปัจจุบันเป็นการรักษาตามอาการ คือการให้ยาลดอาการอักเสบ และบวม แต่เนื่องจากโรคเกาต์เทียมยังไม่มีวิธีการที่แม่นยำในการตรวจคัดกรองผู้ป่วย และไม่มียารักษาโรคโดยตรง คือไม่มียาที่สามารถสลายผลึกแคลเซียมไพโรฟอสเฟต หรือลดเมตาบอริซึมของการเกิดของสารประกอบไพโรฟอสเฟตในน้ำไขข้อ ดังนั้นการพัฒนาวิธีการตรวจวิเคราะห์เพื่อคัดกรองแยกผู้ป่วยโรคเกาต์เทียมออกจากโรคเกาต์แท้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งงานวิจัยได้พัฒนา 3 วิธีการใหม่เพื่อเป็นการตรวจหาแนวโน้มการเกิดโรคการสะสมของแคลเซียมไพโรฟอสเฟตประกอบไปด้วย 1) การตรวจวิเคราะห์ผลึกแคลเซียมฟอสเฟตโดยตรง 2) การตรวจหาปริมาณไพโรฟอสเฟตที่ละลายอยู่ในน้ำไขข้อและ 3) การตรวจหาประสิทธิภาพของเอนไซม์ในน้ำไขข้อ ที่จะเปลี่ยน ATP เป็นสารประกอบไพโรฟอสเฟต การมีระดับของสารประกอบไพโรฟอสเฟตมากเกินไปในน้ำไขข้อ จะทำให้สารประกอบไพโรฟอสเฟตจับกับแคลเซียม ที่มีรายงานว่าพบในระดับประมาณ 2.3 mM กลายเป็นผลึกแคลเซียมไพโรฟอสเฟตที่เป็นสาเหตุของอาการอักเสบ บวม แดง บริเวณข้อ ดังนั้นวิธีการวิเคราะห์ทั้ง 3 วิธีที่ได้พัฒนาขึ้นจากโครงการวิจัยนี้ จะมีส่วนช่วยในการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยโรคข้ออักเสบจากการสะสมของผลึกแคลเซียมไพโรฟอสเฟต จะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสในการรับการรักษาที่ถูกต้อง ลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาลดอาการปวดบวม และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่โดยมากเป็นผู้สูงวัยให้สามารถเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสม สามารถใช้ชีวิตในสังคมสูงวัยได้อย่างมีความสุข