เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
การทำบ่อแก๊สชีวภาพ เพื่อกำจัดและใช้ประโยชน์จากของเสียที่เกิดขึ้นภายในครัวเรือน เป็นระบบบำบัดและแก้ปัญหาวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของเสีย ซึ่งสามารถนำมาแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอันเนื่องจากของเสียจากฟาร์มปศุสัตว์ เศษอาหาร น้ำเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมในเรื่องของกลิ่น แมลงวัน โรคภัยไข้เจ็บ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และชุมชนโดยรอบ ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดประโยชน์ โดยใช้กระบวนการนำสารอินทรีย์ที่มีอยู่ในของเสีย เช่น มูลสัตว์ น้ำเสีย หรือขยะ ไปหมักในสภาพไร้ออกซิเจน เพื่อให้กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลาย บำบัดของเสียและผลิตก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานใช้ในการหุงต้มและให้แสงสว่างในครัวเรือนและได้ประโยชน์ด้านการป้องกันและรักษาสิ่งแวดล้อม มูลสัตว์จะถูกย่อยสลาย ทำให้กลิ่นและไข่แมลงต่างๆ ที่อยู่ในมูลสัตว์ถูกทำลาย และยังได้ผลพลอยได้อีกประการหนึ่ง คือ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้ในการบำรุงดินให้อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการเพาะปลูกทางการเกษตร อีกทั้งช่วยประหยัดการใช้พลังงาน รักษาสภาพแวดล้อมทำให้ความเป็นอยู่ของชุมชนรอบข้างดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามการนำเทคโนโลยีแก๊สชีวภาพไปใช้ในการจัดการของเสียยังไม่เป็นที่แพร่หลายและได้ผลอย่างจริงจัง ซึ่งสาเหตุหนึ่งอาจเนื่องมาจาก การไม่มีประสิทธิภาพของระบบได้แก๊สจำนวนน้อย ไม่คุ้มค่ากับการนำไปใช้และไม่คุ้มค่ากับการลงทุน โดยสาเหตุสามารถสรุปได้ดังนี้ คือ ด้านเทคนิคการก่อสร้าง ได้แก่ โดมแตกร้าว ระดับของส่วนประกอบไม่ถูกต้อง แก๊สที่ผลิตได้ไม่พอเพียง ท่อเต็ม ปัญหาบ่อหมักอุดตันเพราะการขุดลอกกากตะกอนที่ตกค้างทำได้ยาก ส่วนใหญ่มักไม่มิดชิด ทำให้ของเหลวในถังหมักรั่วไหลออกมาได้ จึงทำให้มีกลิ่นเหม็น และขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญภายในท้องถิ่น นอกจากนี้เทคโนโลยีแก๊สชีวภาพยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่และซับซ้อนสำหรับเกษตรกร ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการถ่ายทอดความรู้ และได้รับการสนับสนุนจาภาครัฐมากกว่านี้
ในการก่อสร้างบ่อแก๊ส ควรยึดหลัก สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยง่ายแก่การปฏิบัติ มีประสิทธิภาพสูงคำนึงถึงจำนวนสัตว์ที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มซึ่งจะสัมพันธ์กับมูลที่ถ่ายออกมา ขนาดของบ่อหมัก ลักษณะของแบบ หรือรูปทรงของบ่อที่เหมาะสม การใช้แก๊สหรือ พลังงานประจำวัน และการนำกากตะกอนและของเหลือออกไปใช้
บ่อแก๊สชีวภาพแบบยอดโดม (มทส.) ดัดแปลงมาจากแบบยอดโดมที่ ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนมีขนาดภายใน 8-12 ลูกบาศก์เมตร มีระบบป้องกันการล้นของของเหลว มีพื้นลาดเอียงและมีประตูเปิดให้ของเหลวและกากตะกอนไหลออกได้ ทำให้การขจัดกากตะกอนก้นบ่อและนำมาใช้เป็นปุ๋ยได้สะดวก การผลิตแก๊สมีประสิทธิภาพสูง
จากงานวิจัยของมทส.พบว่าถ้าใส่มูลสัตว์ตามความจุของถังทีเหมาะสม (ประมาณ 1,000 กก) สามารถผลิตแก๊สเฉลี่ยได้อยู่ระหว่าง 1-3 ลูกบาศก์เมตรต่อวันติดต่อกันเป็นระยะเวลามากกว่า 3 เดือน และสามารถใช้งานแบบต่อเนื่องถ้ามีการเลี้ยงสัตว์ด้วยตัวเอง โดยสุกร 1 ตัวให้มูลเฉลี่ย 3-4 กก./วัน ผลิตแก็สได้ 0.18-0.24 ลบ.ม./วัน ถ้าใช้แก็สหุงต้มวันละ 2 ชั่วโมง เท่ากับ 1.4 ลบ.ม. เท่ากับใช้สุกร 6-8 ตัว แก๊สชีวภาพ1 ลูกบาศก์เมตร
สามารถนำไปใช้ได้ดังนี้ เท่าแก๊สหุงต้ม 0.46 กก. ครอบครัวขนาด 4 คน สามารถหุงต้มได้ 3 มื้อ นอกจากได้แก๊สแล้วในส่วนของกากตะกอนและของเหลว เป็นปุ๋ยที่มีคุณภาพดี เพราะผ่านการหมักที่ทำลายเมล็ดพืช ไข่แมลง และเชื้อโรคต่างๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นสามารถนำมาใช้ปรับปรุงดินเพิ่มผลผลิตพืช ธาตุอาหารพืชในของเหลวจากบ่อแก๊สอยู่ในรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีจึงเหมาะสำหรับพืชที่มีอายุสั้นๆ และมีการเจริญเติบโตเร็ว เช่น ผักต่างๆ
ข้อดี
1. มีขนาดภายใน ประมาณ 8 ลูกบาศก์เมตร การผลิตแก๊สมีประสิทธิภาพสามารถใช้แก๊สได้อย่างเพียงพอตลอดระยะเวลา และสามารถปรับปริมาณการผลิตแก๊สได้ตามความต้องการใช้แก๊สของแต่ละครัวเรือน
2. บ่อแก๊สทุกส่วนอยู่ใต้ดินทำให้ไม่เปลืองเนื้อที่
3. มีระบบป้องกันการล้น Over Flow) ของของเหลว ในบ่อแก๊ส โดยถ้ามีแก๊สในถังมากจะดันของเหลวในบ่อแก๊สไปอยู่ที่ช่องเก็บซึ่งอยู่ที่ส่วนบนของบ่อและถ้าแก๊สลดลงของเหลวจะไหลกลับมาอยู่ในบ่อหมักแก๊ส ทำให้แรงดันแก๊สคงที่และไม่มีของเหลวรั่วไหลออกไปนอกถังจึงป้องกันกลิ่นได้เป็นอยางดี
4. พื้นของบ่อลาดเอียงและมีประตูเปิดให้ของเหลวและกากตะกอนไหลออกได้ ทำให้การขจัดกากตะกอนก้นบ่อนำมาใช้เป็นปุ๋ยได้สะดวก และไม่เกิดการสะสมของกากตะกอนที่ก้นบ่อ
5. มีความแข็งแรงทนทานและปลอดภัย
ข้อจำกัด
1.เนื่องจากมีขนาดใหญ่และต้องการให้มีความคงทนถาวรและปลอดภัย ดังนั้นการก่อสร้างต้องทำให้ได้ตามมาตรฐาน จึงทำให้การก่อสร้างต้องใช้ต้นทุนที่ค่อนข้างสูง
2.การก่อสร้างต้องทำในช่วงทีไม่มีฝนและในพื้นที่ที่น้ำท่วมไม่ถึง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุดชล วุ้นประเสริฐ หัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช
สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
โทรศัพท์ 0-4422-4161
รายละเอียดผู้รับบริการ
วันที่ถาม : 01/05/2563
คำถาม : เครื่องสับ กาบมะพร้าว มีจำหน่ายหรือเปล่าครับ ราคาเท่าไหร่|436|M
คำตอบ :
การดำเนินงานจากเครือข่าย