เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
ไวน์เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮาล์ต่ำได้จากการหมักโดยใช้เชื้อยีสและผลไม้ตามต้องการของผู้ประกอบการ ไวน์สามารถแบ่งตามความหวานหรือปริมาณน้ำตาลที่มีในส่วนผสมของไวน์ เช่น
1.ไวน์ไม่หวาน (drywine) เป็นไวน์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง ปริมาณน้ำตาลต่ำนิยมดื่มคู่กับอาหารหรือหลังอาหาร
2.ไวน์หวานน้ำ (semi dry wine) เป็นไวน์ที่มีน้ำตาลน้อยร้อยละ 2-5 นิยมดื่มก่อนอาหาร เป็นไวน์ที่ดื่มเพื่อเรียกน้ำย่อย
3.ไวน์หวาน (sweetwine) มีน้ำตาลเหลือมากเป็นเครื่องดื่มมีปริมาณแอกอฮอล์ไม่เกินร้อยละ 10
กระบวนการทำไวน์โกโก้
1.คัดผลที่มีความสุกพอดีไม่เน่าเสีย มีกลิ่นหอม
2.เตรียมน้ำหมักผลไม้โดยเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำเนื่องจากคุณภาพของน้ำมีผลต่อคุณลักษณะและคุณภาภพของไวน์ที่หมด วิธีการเตรียมน้ำหมักทำได้ 2 วิธีคือ
2.1 หมักทั้งผล
2.2 หมักเฉพาะน้ำผลไม้
การเตรียมหัวเชื้อเพื่อการขยายปริมาณเชื้อยีสที่ใช้ในการหมักให้ยีสต์ปรับตัวเพื่อให้พร้อมในการใช้น้ำตาลเพื่อสร้างแอลกอฮอล์ กระบวนการหมักแบ่งเป็น 2 ช่วงคือช่วงแรกเป็นช่วงการแบ่งตัวของยีส และช่วงที่2 เป็นช่วงการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์
การแยกส่วนใส โดยการดูดแยกส่วนใสของไวน์ออกจากตะกอนทันทีหลังการหมักสิ้่นสุดเพื่อป้องกันการเกิดกลิ่น และรสชาติที่ไม่ดีของไวน์
การทำไวน์ให้ใส สามารถทำได้โดยการทิ้งให้ตกตะกอนตามธรรมชาติหรือทำการกรองเอาตะกอนออกรวมถึงการใช้เบนโทไท์
การบรรจุขวด เลือกขวดสีเข้มป้องกันการออกซิไดซ์ไวน์ ล้างขวดทำความสะอาด้วยน้ำร้อนคว่ำก่อนนำไปใช้หรือนึ่งด้วยไอน้ำ 10 นาที การบรรจุลงขวดจะใช้ระบบท่อหรือสายยาง และปิดจกทันทีเพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชั่น
การทำไวน์โกโก้
1.เนื้อโกโก้สด 10 กิโลกรัมเติมน้ำสะอาด 5 กิโลกรัม
2.ปรับความหวานด้วยน้ำตาลทรายให้ได้ 22 บริกส์ เติมอาหารยีส DAP 4.5 diy,
3.เติม KMS 150 ppm คนให้เข้ากันแล้วเทใส่ถังหมักทิ้งไว้ 3-6 ชั่วโมง
4.เติมเชื้อยีสต์ 5 กรัม ทำการหมักที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 2 สัปดาห์
5.ทำการแยกส่วนใสใส่ภาชนะที่สะอาด บ่มในที่เย็น 5-15 องศา เป็นเวลา 3-6 เดือน
6. พาสเจอร์ไรซ์หรือใช้โปแตสเซีมเมตตาไบซัลไฟด์ บรรจุขวดสะอาด