เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
หนอนนกเป็นแมลงที่จัดอยู่ในจำพวกแมลงปีกแข็งตระกูลมอด ด้วง มีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น มอดรำข้าวสาลี หนอนรำข้าวสาลี แต่ที่คนส่วนใหญ่รู้จักและเรียกกันทั่วๆไปคือ “หนอนนก” เป็นเพราะลักษณะการนำไปใช้ประโยชน์ในรูปของอาหารให้นกกินจึงถูกเรียกว่า “หนอนนก” มีชื่อทางสามัญว่า Mealworm เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังซึ่งเป็นตัวอ่อนของแมลงปีกแข็งที่มีชื่อว่า Meal-Beetle ซึ่งจัดอยู่ในอันดับ Coleoptera วงศ์ Tenebrionidae สกุล Tenebrio ชนิดที่มีการเลี้ยงในประเทศไทยคือ Tenebrio molitor จากการศึกษาสรุปได้ว่าการเจริญเติบโตของหนอนนกจะมีการเจริญเติบโตและมีการพัฒนาตัวเองหลายขั้นตอนก่อนที่จะเป็นตัวเต็มวัยดังนี้ ระยะไข่ใช้เวลา 5-7 วันก็จะฟักออกเป็นตัว ระยะตัวหนอน (ตัวอ่อน) หลังจากที่ตัวเต็มวัยวางไข่ได้ 5-7 วันไข่ก็จะฟักออกเป็นตัวได้ 45-50 วันขนาดโตพอที่จะใช้เป็นอาหารของสัตว์ได้ ระยะดักแด้ใช้เวลา 5-7 วันเป็นระยะที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และระยะตัวเต็มวัย เป็นระยะที่มีลักษณะเหมือนพ่อแม่ ดักแด้ก็จะมีการลอกคราบครั้งสุดท้ายจะเป็นตัวเต็มวัยออกมาจากดักแด้ และจะเริ่มผสมพันธุ์วางไข่ในทันทีที่กลายเป็นสีน้ำตาลดำหรือเป็นสีดำทั้งตัวแล้วผสมพันธุ์ ตัวเมีย 1ตัวจะวางไข่ได้ 300-500 ฟอง หนอนนกจัดเป็นอาหารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่ใช้ในการเลี้ยงนก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด โดยเฉพาะนกกรงหัวจุกเป็นนกที่พบได้ทุกภาคของประเทศไทยนิยมเลี้ยงกันเกือบทุกบ้านในท้องถิ่นทางภาคใต้ ในปัจจุบันผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกนิยมซื้อหนอนนกมาเป็นอาหารแทน ซึ่งหนอนนกเป็นอาหารที่โปรดปรานของนกกรงหัวจุก จึงจัดว่าหนอนเป็นแหล่งโปรตีนของนก ทำให้นกที่เลี้ยงด้วยหนอนนก มีสุขภาพแข็งแรง มีความกล้าหาญ สามารถร้องสู้ได้นาน และมีความคุ้นเคยกับผู้เลี้ยง นอกจากนี้ยังให้อาหารเสริมจำพวกผัก ผลไม้ และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น แตงกวา กล้วย มะละกอ ตำลึง โดยนำผักหรือผลไม้หั่นเป็นชิ้นบางๆ วางบนอาหาร มาช่วยเสริมเพื่อลดต้นทุนและสามารถใช้ประโยชน์จากอาหารสดที่เป็นวัสดุเหลือใช้ได้อย่างคุ้มค่า และที่สำคัญยังช่วยลดขยะได้อีกวิธีหนึ่งด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงเกิดแนวคิดในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงหนอนนกในเชิงพาณิชย์เพื่อผลิตหนอนตอบสนองความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์ขึ้น ซึ่งคาดว่าในอนาคตหนอนชนิดนี้จะกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจในวงการอาหารสัตว์ที่มีมูลค่ามหาศาล
ข้อควรระวัง
1. ระวังแตงกวา หรือ ผักจะเน่านะครับ หมั่นดูแลน ที่สำคัญอย่าให้ชิ้นใหญ่ หรือ มีปริมาณน้ำมากเกินไป เพราะน้ำ อาจจะทำให้หนอนนกตายได้
2. รำแป้งสาลี ที่นำมาใช้ จะมีมอดปนมาเยอะมาก ระวังมันจะบินว่อนทั่วบ้าน. แนะนำว่าก่อนจะใช้รำเพื่อเป็นอาหารของหนอนนก ควรจะนำมานึ่ง เพื่อฆ่ามอดก่อน
3. อาหารสูตรพิเศษในการเลี้ยงหนอนนก คือ รำแป้งสาลี 50% + อาหารไก่เล็กเอามาตำ ๆ ป่น ๆ ให้ละเอียด 50% นำมาคลุกเคล้า ให้เข้ากัน ใช้เป็นสูตรอาหารโปรตีนสูง จะทำให้หนอนนกจะโตไวมาก
4. รำแป้งสาลีที่นำมาใช้เลี้ยงหนอนนกจะแพงกว่ารำทั่ว ๆ ไป หากต้องการลดต้นทุน ก็นำรำธรรมดา ๆ มาผสมกันได้ครับ เป็นการช่วยลดต้นทุนอีกวิธีหนึ่ง
คู่มือการเลี้ยงหนอนนกเชิงพานิชย์
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
คลินิกเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี
โทร. 077-913-366 เว็บไซต์ http://www.clinictech.sru.ac.th
อีเมล์ : sophol02@hotmail.com,chutamas_kk@hotmail.com,opo_fofan005@hotmail.com