เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
ว่านหางจระเข้ จัดอยู่ในพืชตระกูล Aloaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Aloe vera (Linn.) Burm. f. ซึ่งยังมีชื่อพ้องอื่นๆ อีกมากมาย โดยว่านหางจระเข้มีมากกว่า 300 พันธุ์ มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ล้มลุก มีข้อและปล้องสั้น ใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบมีหนามแหลม แผ่นใบหนาอวบน้ำมาก ข้างในเป็นวุ้นใส น้ำยางสีน้ำตาลอมเหลือง ดอกเป็นช่อแตกออกที่ปลายยอด โคนดอกย่อยเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายกลีบดอกแยกเป็น 6 แฉก
ส่วนที่ใช้เป็นยาและสรรพคุณ วุ้นจากใบ สรรพคุณ ใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวก ผิวหนังอักเสบ บวม แมลงกัดต่อย เริม และฝี ยางจากใบและต้น สรรพคุณ ใช้รักษาอาการท้องผูก
สารสำคัญของว่านหางจระเข้สารสำคัญที่ช่วยออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ คือ aloctin A, veracylglucanB และ Cและ bradykininase สารสำคัญในการออกฤทธิ์สมานแผล คือ aloctin A และ aloctin B สารสำคัญออกฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะอาหาร คือ traumatic acid สารสำคัญออกฤทธิ์เพิ่มการบีบตัวของลำไส้ ลดอาการท้องผูก คือ สารกลุ่ม anthraquinones
ประโยชน์ทั่วไปของว่านหางจระเข้
1. ทำให้เส้นผมสลวย ดกดำและเงางามมากขึ้น ช่วยป้องกันปัญหาการเกิดรังแคบนหนังศีรษะ
2. มีผลการทดลองในการใช้วุ้นของว่านหางจระเข้มารักษาผู้ป่วยที่เป็นแผลกดทับได้จนเห็นผล
3. มีส่วนช่วยในการลดหน้าท้องลายหลังคลอดบุตร
4. ใช้วุ้นทาในบริเวณที่เป็นเส้นเลือดขอด จะช่วยแก้เส้นเลือดขอดเหล่านั้นได้
5. สามารถนำวุ้นของว่านหางจระเข้มาทำเป็นของหวานเพื่อสุขภาพได้ เช่น วุ้นว่านหางจระเข้ลอยแก้ว
6. มีส่วนช่วยในการชะลอความแก่ชราได้ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้เป็นอย่างดี
7. เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโนหลากหลายชนิด รวมทั้งสารอาหารชนิดต่างๆ ที่มีความจำเป็น
8. มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร รวมทั้งช่วยทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ เสมือนเป็นการดีท็อกซ์ล้างสารพิษที่อยู่ภายในร่างกาย
9. ช่วยป้องกันอีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้
10. ผิวพรรณเนียนนุ่มและชุ่มชื้น ยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ด้วย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
คลินิกเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี
โทร. 077-913-366 เว็บไซต์ http://www.clinictech.sru.ac.th