เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
ผักโมโรเฮยะ ได้ชื่อว่า เป็นผักของพระราชา ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ เนื่องจากเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ เส้นใย รวมอยู่มาก โดยเฉพาะ วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม วิตามินบี1 วิตามินบี2 และเป็นผักที่มีเส้นใยอาหารรวมอยู่มาก ชาวญี่ปุ่นนิยมบริโภคผักโมโรเฮยะกันอย่างแพร่หลาย โดยนำมาแปรรูปเป็นอาหารเสริมสุขภาพ เช่น ซุปผัก หรือนำผักมาบดเป็นผง เพื่อเป็นวัตถุดิบปรุงแต่งในอาหาร เช่น บะหมี่ผักโมโรเฮยะ คุกกี้ ขนมปัง ฯลฯ
มองดูผิวเผิน ต้นโมโรเฮยะ ก็มีลักษณะคล้ายกับต้นกะเพรา แต่ความจริงแล้ว พืชชนิดนี้ อยู่ในกลุ่มเดียวกับต้นปอกระเจา โดยทั่วไป ต้นปอกระเจาสามารถนำมาใช้ทำอาหารได้ทั้งชนิดฝักกลมและฝักยาว ปอกระเจาฝักกลมมีรสขม ต้องลวกน้ำเกลือก่อนนำไปผัดกับกระเทียม สำหรับผักโมโรเฮยะ เป็นพันธุ์ “ปอกระเจาฝักยาว” นั่นเอง ปอชนิดนี้นิยมนำยอดอ่อนมาประกอบอาหารเพราะใบมีรสหวาน
ลักษณะทั่วไปของผักโมโรเฮยะคือ ลำต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร แตกกิ่งมาก ไม่มีหนาม ใบสีเขียว ยาวรีคล้ายใบกะเพรา ออกดอกเมื่ออายุ 70-80 วัน เจริญเติบโตเร็วและแตกกิ่งมากกว่าปอกระเจาพันธุ์อื่น โดยเฉพาะในดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว ผักโมโรเฮยะถือเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ เพราะสารอาหารประเภทเบต้าแคโรทีน มากกว่าผักโขมถึง 3 เท่า ช่วยชะลอความชรา มีสารต่อต้านมะเร็ง แก้โรคเบาหวาน แก้ท้องผูก รักษาโรคกระเพาะลำไส้ ความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ โรคโลหิตจาง บรรเทาอาการอ่อนเพลีย และช่วยบำรุงผิวพรรณ
การปลูกดูแล
ผักโมโรเฮยะปลูกง่าย เติบโตเร็ว ทนทานต่อภาวะอากาศร้อนแล้งได้เป็นอย่างดี แค่หว่านเมล็ดผักในแปลงที่เตรียมไว้ ต้นกล้าจะงอกจากเมล็ด ภายใน 12-15 วัน ต้นสูงประมาณครึ่งคืบ อายุแค่ 6 เดือน จะมีความสูงกว่า 2 เมตร เปิดให้น้ำทุกๆ 2-3 วัน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน ปอชนิดนี้จะมีฝักแก่จัด เมื่ออายุประมาณ 6 เดือน สามารถเก็บมาใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ต่อไป ภายในฝักแก่ 1 ฝักจะมีเมล็ดพันธุ์จำนวนมากเพาะขึ้นเกือบหมดทุกเมล็ด เกษตรกรจะเด็ดใบสดทุกๆ เช้า เพื่อนำมาตากแดด อบแห้งและบดเป็นผงผักเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการแปรรูปบะหมี่ผักต่อไป