เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
น้ำพริกกะปิผงเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ทดลองผลิตขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าของกะปิ เนื่องจากน้ำพริกกะปิ ไม่สามารถเก็บได้นาน อีกทั้งไม่สะดวกในการบริโภค เพราะมีขั้นตอนการเตรียมที่ค่อนข้างยุ่งยาก การผลิตน้ำพริกกะปิผงจะให้ความสะดวกในการรับประทานเพียงเติมน้ำอุ่นก็สามารถบริโภคได้ทันที อีกทั้งสามารถเก็บรักษาน้ำพริกกะปิผงไว้ได้นาน
ประโยชน์ของน้ำพริกเพื่อสุขภาพ คุณสมบัติทางยาของน้ำพริก ได้ถูกประกาศโดยกระทรวงสาธารณะสุข และมุ่งส่งเสริมให้แพร่หลายมากขึ้นสำหรับผู้บริโภคนอกจากจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าแล้ว ยังช่วยประหยัดค่ารักษาสุขภาพของคนไทย ปีนึงไม่ต่ำกว่าพันล้านบาทจากข้อมูลที่ได้ ในแต่ละปี จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรค เบาหวาน ประมาณ 5,400 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมถึงการอดอาหาร ซึ่งจากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก พบว่า 60 เปอร์ เซ็นต์ของโรคมะเร็งมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการอดอาหาร"จากการสำรวจพบว่า คนส่วนใหญ่บริโภคอาหารน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ คือ ผักและผลไม้ 400 กรัมต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 80 ในผู้ชาย และร้อยละ 76 ในผู้หญิง" น้ำพริก มีส่วนผสมของสมุนไพรที่เป็นประโยชน์
ต่อสุขภาพ โดยมีส่วนประกอบทั่วไป คือ พริก กระเทียม หอมแดง กุ้ง น้ำปลา และปลาร้า""น้ำพริก สามารถเพิ่มการสร้างเซลล์กำจัดเชื้อโรคได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่งเสริมระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบการหายใจให้ดีขึ้น ซึ่งช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน"น้ำพริกมีส่วนประกอบของ antioxidants และ anti-ageing ซึ่งสามารถลดการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ได้ร้อยละ 20 และโรคลม โรคทางสมอง ได้ร้อยละ 26 ถึง 42
นอกจากนี้ น้ำพริกยังสนับสนุนให้คนทั่วไปนิยมทานมากกว่าผัก"ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อน เราไม่สามารถที่จะทานน้ำพริกโดยไม่ทานผักและข้าวไปด้วยได้" ทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า เส้นใยผักช่วยในระบบการย่อยอาหาร"น้ำพริกมีรสชาติที่อร่อย หากใช้ส่วนประกอบที่มีคุณภาพ และผักที่สะอาด น้ำพริกบางประเภทใช้พริกต่างชนิดกัน เพื่อรสชาติที่ดีสำหรับน้ำพริกประเภทนั้น ๆ"ประเทศไทยเคยมีน้ำพริกมากกว่า 500 ประเภท แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ 200 ประเภทเท่านั้น ในแต่ละท้องถิ่นจะมีส่วนประกอบของน้ำพริก วิธีการทำ และวิธีการกิน ที่แตกต่างกันไป จากกลุ่มตัวอย่างน้ำพริกยังพบอีกว่าร้อยละ 98 ของคนทั่วไป นิยมรับประทานน้ำพริกเป็นอาหารจานหลัก ในขณะที่ ร้อยละ 64 นิยมรับประทานน้ำพริกเป็นประจำทุกวันน้ำพริกที่เป็นที่นิยมที่สุด ได้แก่ น้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้า และน้ำพริกหนุ่ม"
ส่วนผสม
พริกขี้หนูสด 70 กรัม
กะปิ 250 กรัม
น้ำมะนาว 264 กรัม
น้ำตาลทราย 144 กรัม
กระเทียม 100 กรัม
กุ้งแห้งป่น 100 กรัม
น้ำปลา 24 กรัม
วิธีการ
1. โขลกหรือบด กระเทียม พริกขี้หนู กะปิ กุ้งแห้ง ให้เข้ากัน
2. เติมส่วนผสมได้แก่น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว
3. นำไปเกลี่ยในถาด ให้มีความหนาไม่เกิน 1 เซนติเมตร นำไปอบที่อุณหภูมิ 55-60 องศาเซลเซียส จนกระทั่งผลิตภัณฑ์มีลักษณะแห้ง ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง
4. นำมาบดหยาบ
5. บรรจุใส่ถุงพลาสติกหรือภาชนะบรรจุอื่น ๆ ที่สามารถป้องกันความชื้นได้ดี
การเก็บรักษา เก็บในถุงพลาสติก เก็บในที่แห้ง สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิห้องปกติ
การรับประทาน น้ำพริกกะปิผง 25 กรัม ละลายน้ำร้อนหรืออุ่นปริมาณ 60 มล. รับประทาน พร้อมกับผักสด
https://www.thairath.co.th/content/198542