เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
กรมการข้าวและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ร่วมกันพัฒนาเครื่องตรวจคุณภาพข้าวทั้งข้าวเปลือกและข้าวโดยใช้เทคโนโลยีโฟโตนิกส์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานความรู้ทางด้านแสง อิเล็กทรอนิกส์และซอฟท์แวร์ด้วยกัน
ผลจากความร่วมมือดังกล่าวพัฒนาออกมาเป็นเครื่องตรวจทั้งหมด 3 ชุดคือ
1. เครื่องตรวจเมล็ดข้าวแดง เมล็ดข้าวเหนียว หรือเมล็ดข้าวเจ้าที่ปนมากับเมล็ดพันธุ์
2. เครื่องตรวจคุณภาพเมล็ดข้าว
3. เครื่องมือวัดคัพภะของเมล็ดข้าว
ซึ่งเพิ่งมีการส่งมอบจากเนคเทคให้แก่กรมการข้าว
ด้าน นายจักรกฤษณ์ กำทองดี ผู้ช่วยนักวิจัยห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ เนคเทค สมาชิกทีมผู้พัฒนาเครื่องตรวจคุณภาพเมล็ดข้าว อธิบายถึงเครื่องที่พัฒนาขึ้นว่า แทนที่จะใช้ตาคนวัดเมล็ดข้าวทีละเมล็ด ก็เปลี่ยนใช้ซีซีดีในเครื่องแสกนเนอร์แทนตาคน โดยเมื่อจัดเรียงเมล็ดข้าวในถาดจัดเรียง แล้วนำเข้าเครื่องตรวจ สแกนเนอร์จะบันทึกภาพเพื่อเข้าสู่การประมวลผลด้วยภาพที่ได้เขียนโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์วัดขนาด สีและตรวจดูลักษณะท้องไข่ของเมล็ดข้าว โดยกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียง 1 นาที
ส่วนเครื่องวัดขนาดคัพภะซึ่ง โกษม ไชยถาวร นักวิจัย ห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ เนคเทค ร่วมพัฒนาด้วยนั้น มีช่องสำหรับใส่ถาดเมล็ดข้าวสารที่เลื่อนตรวจได้ทีละเมล็ด และตรงส่วนรับภาพของเครื่องตรวจ โดยการส่วนของคัพภะหรือจมูกข้าวและพื้นที่ส่วนใหย่ของเมล็ดข้าวจะให้ค่าสีและแสงที่แตกต่างกัน โปรแกรมจึงคำนวณพื้นที่ทั้งสองส่วนออกมาเป็นเปอร์เซนต์ได้
สุดท้ายเป็นเครื่องตรวจการปนของเมล็ดข้าวแดง เมล็ดข้าวเหนียวและเมล็ดข้าวเจ้าในในเมล็ดพันธุ์ โดย ประสิทธิ์ ป้องสูน นักวิจัย ห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ เนคเทค อธิบายว่า ปกติข้าวจะมีการกลายพันธุ์เป็นข้าวแดงซึ่งเมื่อแกะเปลือกออกจะเห็นเมล็ดเป็นสีแดง และระหว่างการปลูกหรือขนส่งอาจมีการปะปนระหว่างข้าวเหนียวและข้าวจ้าว จึงต้องการตรวจสอบการปน โดยลักษณะเมล็ดข้าวที่ยังไม่สีนั้นแยกด้วยตาเปล่าได้ลำบากและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ จึงได้พัฒนาเครื่องตรวจดังกล่าว ซึ่งใช้การสแกนภาพด้วยสแกนเนอร์ โดยลักษณะพันธุ์ที่แตกต่างกันจะให้สีและความเข้มแสงที่แตกต่างกัน และเขียนอัลกอริทึมให้โปรแกรมช่วยในการคัดแยก