"ร้องเพลง" ในสถานกาณ์จำเป็น และวิธีการรับมือ  67

คำสำคัญ : ร้องเพลง  สันทนาการ  

* ขอโพสต์ใหม่ค่ะ เนื่องจากบล็อกเดิมอยู่ดี ๆ ก็หายไป

 

"ร้องเพลง" ในสถานกาณ์จำเป็น และวิธีการรับมือ

การร้องเพลง กับ การทำงาน หากเราไม่ได้เป็นนักร้อง ก็คงไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าเราจะทำงานใดๆ แม้แต่ในวงการราชการ การตกอยู่ในสถานการณ์ให้ต้องขึ้นไปร้องเพลงมักเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนน่าแปลกใจ ยิ่งมีตำแหน่งสูงเท่าไร ยิ่งต้องตกอยู่ในสถานการณ์ “จำเป็นต้องร้องเพลง” มากเท่านั้น ถ้าเราเป็นคนร้องเพลงเพราะ ร้องเก่ง เต้นได้ มีเทคนิคแพรวพราว พร้อมลูกคอ 18ชั้น เราคงไม่ต้องเดือดร้อนอะไร แต่ในความเป็นจริงเราก็แค่ข้าราชการธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นอดีตนักร้องดังจากค่ายเพลงไหน แล้วเราจะต้องทำอย่างไร หากโดนสถานการณ์บีบให้ต้องขึ้นไปร้องเพลง

สถานการณ์ไหนบ้างที่อาจจะต้องขึ้นไปร้องเพลง

ประชุมเครือข่าย ประชุมประจำปี ประชุมเชิงปฏิบัติการ หรืองานสัมมนา เสวนา ใด ๆ ก็แล้วแต่ ช่วงเวลาที่ต้องร้องเพลงมักจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่มีการรับประทานอาหารมื้อเย็น ถ้าในกำหนดการมีการทานอาหารเย็นแล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นเราที่ถูกรบเร้าให้ขึ้นไปร้องเพลง โดยเฉพาะเมื่อเรามีตำแหน่งที่สูงมากพอ ก็มักจะเป็นลำดับต้น ๆ ที่จะถูกเชิญให้ขึ้นไปร้องเพลง

จะรับมือกับสถานการณ์ “จำเป็นต้องร้อง” นี้อย่างไร

จะขอสรุปเป็น ข้อ ๆ ดังนี้

  1. มีเพลงหากินที่สามารถร้องได้ประจำอย่างน้อย 2เพลง การที่เราจะมีเพลงที่ร้องบ่อย ๆ ร้องซ้ำ ๆ เพลงที่เรามั่นใจว่าร้องได้แน่ รวมถึงอาจจะต้องซ้อมร้องไว้ให้จบเพลงได้ เป็นทางออกที่ดีที่สุด หากรู้ตัวว่าต้องอยู่ในสถานการณ์บังคับร้อง
  2. สืบเนื่องจากข้อ 1เพลงที่เราจะเลือกซ้อมให้เป็นเพลงหากิน หรือเพลงประจำตัว ควรต้องเป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน ผู้คนร้องตามกันได้ ไม่ว่าเราจะชอบฟังเพลงแนวไหน แต่เมื่อเราต้องขึ้นไปร้องเพลง ห้ามร้องเพลงอินดี้ ที่มีคนรู้จักน้อยเชียว เพราะนั่นจะยิ่งทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายขึ้นสำหรับเรา ลองนึกสภาพว่าขึ้นไปร้องเพลงแล้วทุกคนเงียบกริบ หันไปสบตาใครก็เจอแต่คิ้วที่ขมวด เพราะพยายามนึกให้ออกว่าเพลงที่เราร้องคือเพลงอะไร นั่นจะยิ่งทำให้เราประหม่า
  3. หาตัวช่วย ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องร้องเดี่ยวคนเดียวนี่นา หากเราเลือกเพลงที่เป็นที่นิยม หรือใคร ๆ ก็รู้จักตามข้อ 2เราก็จะสามารถหาตัวช่วยที่จะขึ้นไปร้องเพลงด้วยกันได้ง่ายยิ่งขึ้น การได้มีเพื่อนช่วยร้อง มันก็ดีกว่าต้องขึ้นไปร้องคนเดียวเป็นไหน ๆ
  4. หาจังหวะขึ้นไปแจม ไม่ต้องรอให้เชิญ ไม่ต้องรอให้อยู่ในสถานการณ์รบเร้า เราสามารถขึ้นเวทีไปแจมหรือร้องเพลงร่วมกันคนอื่นได้เลย ก่อนที่จะต้องถูกบีบให้ขึ้นไปร้องเพลงคนเดียว จงหาจังหวะที่คนอื่นร้องเพลงที่เรารู้จัก แล้วขึ้นไปร้องร่วมกันซะเลย สถานการณ์แบบนี้ก็ถือว่าเราได้ขึ้นไปร้องเพลงแล้วนั่นแหละ
  5. ไม่ต้องโชว์ความเป็นตัวพ่อตัวแม่มากนัก หากเราไม่อยากต้องเป็นคนที่ถูกร้องขอให้ไปร้องเพลงทุกครั้ง หากเราเป็นคนที่ร้องเพลงได้ดีมาก ก็คงไม่แปลกที่จะมีคนขอให้เราขึ้นไปร้องเป็นประจำ ถ้าเราไม่อยากจะต้องขึ้นเวทีบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องโชว์ลูกคอ 18ชั้น เพราะนี่ไม่ใช่เวทีประกวดร้องเพลง ใช้เทคนิคแค่พอประมาณ ร้องแค่พอสนุกสนานก็พอ
  6. การปฏิเสธแบบเนียน ๆ ในกรณีที่วันนี้เราไม่พร้อมจริง ๆ หรือยังไม่มีเพลงตามข้อที่ 1เลย การปฏิเสธไปก่อนอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และไม่สร้างบาดแผลในใจเรา การผลัดผ่อน ขอให้คนอื่นร้องไปก่อน หรือการหาข้ออ้างเรื่องสุขภาพ แม้กระทั่งการส่งตัวแทนหรือมอบหมายผู้แทน รอจนกระทั่งสถานการณ์ผ่านพ้นไปจนทุกคน “เครื่องติด” คือบรรยากาศเริ่มสนุกสนานทุกอย่างไหลลื่นไปตามบรรยากาศแล้ว ก็เป็นทางออกที่ดี แต่ก็ขอให้เป็นทางออกสุดท้าย เพราะความร่วมมือที่ดี มีผลกับหน้าที่การงาน และความเหมาะสมกับตำแหน่งและสถานการณ์

เป็นไงกันบ้าง กับการรับมือในสถานการณ์ที่ต้องร้องเพลง หวังว่าจะเป็นข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ และทำให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมได้อย่างมีความสุข


เขียนโดย : นางสาวทิพวัลย์  เวชชการัณย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : tipawan@mhesi.go.th