Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
เป็นคนเงียบๆ ก็เปรี้ยงปังได้ แม้ไร้ "คอนเนคชั่น" 110
“เป็นคนเงียบๆ ก็เปรี้ยงปังได้”
เคยได้ยินไหม จะได้ดีต้องมีคอนเนคชั่น แล้วถ้าเราเป็นคนไม่มี หรือไม่ถนัดในการสร้างหรือหาคอนเนคชั่นล่ะ ชาตินี้จะไม่มีโอกาสเติบโตเลยหรือ?
"พวกเด็กหลังห้อง" "พวกเนิร์ด" "Introvert" "Extrovert" เป็นคำคุ้นหูที่เรามักใช้แบ่งแยกผู้คน 2 ประเภท ออกจากกัน และกำหนดความสำเร็จในชีวิตการทำงานให้กับคนทั้ง 2 กลุ่ม อย่าง "แบ่งเขาแบ่งเรา" ทั้งๆที่ความจริงแล้ว คนทั้ง 2 กลุ่ม ไม่ว่าจะกลุ่มไหนก็มีจุดเด่นจุดด้อยด้วยกันทั้งนั้น ใช่ว่าพวกที่มีคอนเนคชั่นแล้วจะรุ่ง จะกลายเป็นผู้บริหารหรือประสบความสำเร็จเท่านั้น หากอาศัยแต่การยืมจมูกคนอื่นหายใจ ก็คงจะรอดได้ไม่นาน ก็จริงอยู่ที่เราอาจจะเอา นายหมา นายแมว มาเป็นผู้บริหาร เมื่อทำๆไปสักพักก็บริหารเป็นเอง เพราะมันคือกระบวนการเรียนรู้และเอาตัวให้รอด แต่บริหารเป็น และบริหารเก่ง มันแตกต่างกัน การประสบความสำเร็จต้องใช้หลายปัจจัยประกอบกัน เอาล่ะ แล้วถ้าคุณเป็นพวกไม่มีคอนเนคชั่น ไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบสังสรร รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการพูดคุยกับคนโน่นที คนนี้ที แล้วคุณจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร ผมเลยมีข้อคิดดีๆจากหนังสือ เป็นคนเงียบๆ ก็ได้เปรียบได้ มาฝากครับ
1. อินโทรเวิร์ตหรือเอ็กซ์โทรเวิร์ต หมายถึง วิธีที่คุณได้รับหรือสูญเสียพลังงานจากการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว อินโทรเวิร์ตจะรู้สึกดูดพลังงานจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ขณะที่เอ็กซ์โทรเวิร์ตจะรู้สึกว่าได้เติมพลังงานเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และการเป็นอินโทรเวิร์ตหรือเอ็กซ์โทรเวิร์ต ไม่สำคัญเท่ากับว่าเราจะใช้สิ่งที่ตัวเองเป็นอย่างไร เพื่อเสริมแรงให้เราก้าวไปยังเป้าหมายที่ต้องการให้ถูกวิธี
2. “แสงเทียนย่อมสว่างกว่าแสงอาทิตย์ในตอนกลางคืน” เปรียบเทียบออกมาให้เห็นภาพว่า แม้เราจะเป็นเทียนไขเราก็ยังสามารถเอาชนะดวงอาทิตย์ได้ ถ้าเข้าใจ “บริบท” หรือ “สถานการณ์” ในการนำสิ่งที่ตัวเองมีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ คุณลักษณะไหนจะดีหรือไม่ดี มีประโยชน์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเราเอาตัวเองไปอยู่ตรงจุดไหน รู้จักใช้ลักษณะเด่นของตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบที่เราตั้งใจในแบบของตัวเอง
3. ชาวอินโทรเวิร์ตมีคุณสมบัติดีๆในตัวเองเยอะมาก อะไรที่เคยมองว่าแย่ จริงๆแล้วอาจไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพียงแต่เราไม่เคยตั้งคำถามหรือไม่เคยเลือกใช้คำที่เป็นเชิงบวก เช่น นิสัยเงียบเกินไปคุณสมบัติที่ดีคือสงบและสุขุม มนุษย์สัมพันธ์ไม่ดีเอาแต่อยู่คนเดียวคุณสมบัติดีคือชอบเข้าใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง เข้าใจตัวเองสูง แค่เราต้องรู้จักวิธีมองจากอีกด้านให้เห็นนั่นเอง
4. มนุษย์อินโทรเวิร์ตก็เป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและมีเสน่ห์ได้ เพราะชาวอินโทรเวิร์ตมีแนวโน้มที่จะมีทักษะในการเข้าใจผู้อื่นสูง ให้ใช้ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นจุดเด่นในการสร้างความแตกต่างในการทำงานได้ ใช้แนวคิดยอมรับความแตกต่างของคนในองค์กร แต่ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นนี้ก็เป็นดาบสองคมเพราะอาจทำให้เรารู้สึกกังวลเรื่องของคนอื่นตามไปด้วย นำมาสู่ความเหนื่อยล้าทางอารมรณ์ ฉะนั้น การเรียนรู้ที่จะเข้าใจผู้อื่นให้ตนเองไม่เจ็บปวดจึงจำเป็น เราเลยต้องรู้จักเปลี่ยนความเข้าใจผู้อื่นมาเป็นความใจดีกับผู้อื่น
5. ถ้าคุณรับแรงกระตุ้นจากสิ่งรอบตัวจนเอ่อล้น ไม่ว่าจากสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย การทำงานที่ Toxic หรือเจอกับเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเหนื่อยล้าจนอยู่ในภาวะหมดไฟ สิ่งที่ทำได้คือกลับมาดูว่าสถานการณ์ที่เราเจออยู่เป็นอย่างไร อะไรคือจุดลั่นไกหรือจุดกระตุ้น (Trigger point)ที่ทำให้รู้สึกท่วมท้นเป็นประจำ จุดไหนพอจะเลิก หลีกหนี หรือแก้ไขได้ เมื่อเริ่มตระหนักรู้สิ่งที่เกิดในแต่ละวันแล้วค่อยๆ หาเวลาให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่อง แล้วความเหนื่อยล้าจะค่อยๆบางลง และหายไป
6.เพื่อรักษาไฟและพลังในการลงมือทำสิ่งต่างๆให้ออกมาดีได้สม่ำเสมอ เราจำเป็นต้องมีสิ่งที่ทำแล้วหล่อเลี้ยงหัวใจด้วย ไม่ว่าสิ่งนั้นจะสร้างรายได้ให้เราหรือไม่ก็ตาม ที่เรารู้สึกเหนื่อยล้าบ่อยครั้งไม่ได้เกิดจากการที่เราลงมือทำสิ่งต่างๆมากไปหรอก แต่เพราะเราทำสิ่งที่ช่วยจุดไฟในตัวเองน้อยเกินไปต่างหาก หากทำสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตและจิตใจไปพร้อมๆกัน เชื่อว่าจะมีไฟในจิตใจและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นได้แน่นอน
7. สมองของมนุษย์อินโทรเวิร์ตจะประมวลผลสิ่งที่ได้รับรู้ในระดับลึกและกว้างกว่าคนทั่วไป บางครั้งนอนอิ่มแล้วก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้า เราเลยต้องเทสิ่งที่คั่งค้างในสมองไปผ่านการเขียนมันออกมา เป็นการเอาความคิดภายในสู่ภายนอก เขียนทุกอย่างในสมุดทุกๆวัน ไม่ต้องกั๊ก ไม่ต้องดูดี ไม่ต้องวิเคราะห์ความคิด ที่สำคัญคืออย่าหยุด สิ่งเหล่านี้นำมาสู่การลดความกังวล ลดความเครียด และเพิ่มความเบาสบายให้กับชีวิต การเขียนบล็อก CMO ก็เป็นแนวทางนึงนะครับ 555
สุดท้ายนี้ ผมจะขอเพิ่มแรงบันดาลใจให้ชาว introvert ทั้งหลาย คุณไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองเพื่อใคร ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ และไม่ใช่สำเร็จแบบธรรมดาแต่สำเร็จได้ในระดับโลก โดยดูบุคคลที่เป็น introvert เหล่านี้ที่ทั่วโลกรู้จักสิครับ
อัลเบิร์ต ไอนสไตน์ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ
บารัก โอบาม่า อดีตประธานาธิบดี USA
อีลอน มัสก์ ผู้นำเทคโนโลยีก้องโลก
มาร์ก ซักเคอเบิร์ก เจ้าพ่อเฟซบุค
อับราฮัม ลินคอน
วอเรน บัฟเฟต เศรษฐีโลก
เป็นไงครับ แต่ละคน จะบอกว่าไม่เก่ง ไม่สำเร็จก็คงไม่ใช่ ใช่ไหมครับ Introvert น่ะเป็นผู้นำที่เก่งๆทั้งนั้น ก็แค่...มันไม่ง่าย คอนเนคชั่นทำให้มันง่ายขึ้น
แต่คอนเนคชั่น มันก็ไม่ยั่งยืน เพราะไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ความสามารถในตัวเราสิครับถึงจะเป็นของจริง ของแทร่ หมั่นฝึกฝนพัฒนาความรู้ ความสามารถของตัวเองเอาไว้ เพราะค่าของคนอยู่ที่เป็นคนของใคร เอ๊ย!! ไม่ใช่ๆ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานครับ และผลงานนั้นเสียงดังกว่าคำพูด ถึงแม้ว่าคำพูดไม่กี่คำจะเคลมผลงานของเราไปหมดก็ตาม แฮ่!! พอก่อน มุกเริ่มไม่ฮาแล้ว พบกันใหม่บล็อกหน้าครับ สวัสดี