ท่านรู้จัก Samonella หรือเปล่า ???   46

คำสำคัญ : Samonella    

ซัลโมเนลลา (Salmonella) คือแบคทีเรียที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์และสัตว์ โดยทั่วไปแล้ว การติดเชื้อซัลโมเนลลามักเกิดจากการบริโภคอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนแบคทีเรียนี้ อาการของการติดเชื้อซัลโมเนลลามักประกอบด้วยท้องเสีย ปวดท้อง มีไข้ และคลื่นไส้ อาการมักจะปรากฏหลังจากบริโภคอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนภายใน 6 ถึง 72 ชั่วโมง และสามารถยาวนานได้ตั้งแต่ 4 ถึง 7 วัน 

งิธีการตรวจสอบซัลโมเนลลา (Salmonella) สามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้:
 
1. การเพาะเชื้อ (Culture): วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเก็บตัวอย่างอุจจาระ เลือด ปัสสาวะ หรืออาหารที่ต้องการตรวจสอบ แล้วนำไปเพาะในอาหารเลี้ยงเชื้อเพื่อตรวจสอบการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
 
2. การตรวจสอบด้วยเทคนิค PCR (Polymerase Chain Reaction): เทคนิคนี้เป็นการขยายและตรวจสอบสารพันธุกรรมของซัลโมเนลลา ซึ่งสามารถทำให้ได้ผลรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง
 
3. การตรวจสอบด้วยเทคนิค ELISA (Enzyme-Linked Immunosorbent Assay): วิธีนี้ใช้การตรวจสอบการมีอยู่ของแอนติเจนหรือแอนติบอดีที่เกี่ยวข้องกับซัลโมเนลลาในตัวอย่าง
 
4. การตรวจสอบด้วยเทคนิค Rapid Test Kits: เป็นชุดทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อให้ตรวจสอบซัลโมเนลลาได้อย่างรวดเร็วและสะดวกในภาคสนามหรือในสถานที่ที่ไม่มีห้องปฏิบัติการที่ครบครัน แต่ผลความแม่นยำไมเท่าวิธีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ดีกว่า 3 วิธีที่ผ่านมาคือ จะเร็วกว่า
 
ซัลโมเนลลา (Salmonella) มักพบในอาหารประเภทต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียนี้ โดยเฉพาะ:
 
1. เนื้อสัตว์ดิบหรือสุกไม่เต็มที่: เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู และเนื้อวัว
2. ไข่และผลิตภัณฑ์จากไข่ดิบหรือสุกไม่เต็มที่: เช่น ไข่ดิบในเมนูไข่ดาวหรือไข่ลวก
3. นมดิบและผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์: เช่น ชีสและนมดิบ
4. อาหารทะเลดิบหรือสุกไม่เต็มที่:** เช่น หอยนางรม ปู และกุ้ง
5. ผักและผลไม้ที่ไม่ได้ล้างสะอาด: โดยเฉพาะผักสลัดและผลไม้ที่กินเปลือก
6. อาหารที่ผ่านการเตรียมไม่สะอาดหรือการปรุงไม่ถูกต้อง: เช่น อาหารที่สัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อนหรืออุปกรณ์ครัวที่ไม่สะอาด
7. การเก็บรักษาและปรุงอาหารอย่างถูกต้องสามารถลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนซัลโมเนลลาในอาหารได้
 
การป้องกันการติดเชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella) สามารถทำได้ด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำต่าง ๆ ดังนี้:
 
1. การปรุงอาหารให้สุก: ปรุงเนื้อสัตว์ ไข่ และอาหารทะเลให้สุกทั่วถึง โดยควรใช้เทอร์โมมิเตอร์ในการตรวจสอบอุณหภูมิภายในอาหารให้มั่นใจว่าอาหารสุกเต็มที่
 
2. ล้างมือ: ล้างมือด้วยสบู่และน้ำอุ่นก่อนและหลังการเตรียมอาหาร หลังจากสัมผัสเนื้อสัตว์ดิบ และหลังใช้ห้องน้ำ
 
3. ล้างอุปกรณ์และพื้นผิว: ล้างเขียง มีด และอุปกรณ์ครัวทั้งหมดที่ใช้เตรียมเนื้อสัตว์ดิบด้วยน้ำร้อนและสบู่ก่อนที่จะใช้กับอาหารอื่น ๆ
 
4. เก็บอาหารแยกกัน: แยกเนื้อสัตว์ดิบ อาหารทะเล และไข่ออกจากอาหารอื่น ๆ ในตู้เย็นเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
 
5. เก็บรักษาอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม: เก็บอาหารที่ต้องแช่เย็นในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 4°C และอาหารที่ต้องแช่แข็งในช่องแช่แข็งที่มีอุณหภูมิไม่เกิน -18°C
 
6. ล้างผักและผลไม้: ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทานหรือปรุงอาหาร
 
7. หลีกเลี่ยงการบริโภคไข่และนมดิบ: เลือกบริโภคไข่และนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์แล้ว
 
8. หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารดิบหรือสุกไม่เต็มที่: โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และไข่
 
9. ระมัดระวังในการรับประทานอาหารนอกบ้าน: เลือกรับประทานอาหารจากร้านที่มีความสะอาดและปรุงอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ
 
การปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อซัลโมเนลลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เขียนโดย : วัฒนจักร  พุ่มวิเศษ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : watanachak.p@mhesi.go.th