IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจ ไทยเป็นที่หนึ่ง โดย นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน  174

คำสำคัญ : ignitethailand  thailanddevelopmentpolicy  

"จุดพลังศักยภาพประเทศไทย เป็นที่ 1 ในภูมิภาค"

1. จุดพลังศักยภาพประเทศไทย เป็นที่ 1 ด้านการท่องเที่ยว

- การใช้ Soft Power เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว: การสร้างเมืองที่ท่องเที่ยวทุกจังหวัดให้เป็นจุดแรงที่เรียกดึงให้นักท่องเที่ยวมีความสนใจ และเน้นการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม ศิลปะ และกีฬา เพื่อสร้างเสน่ห์และประเทศไทยอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวโลก
 
- การสร้างเทศกาลระดับโลกและสถานที่ท่องเที่ยวใหม่: การจัดงานและกิจกรรมที่น่าสนใจตลอดทั้งปี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนในสถานที่ท่องเที่ยวใหม่
 
- การส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค: การสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมและสำรวจทั่วประเทศไทย โดยการให้วีซ่าฟรีแก่บางประเทศ และการทำให้การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น
 
- การแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว: การปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นเพื่อเป็นเสริมสร้างประสิทธิภาพในด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
 
ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยเป็นที่พึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเพิ่มรายได้ให้กับประเทศอย่างยั่งยืนผ่านการท่องเที่ยวในระยะยาว
 
2. จุดพลังศักยภาพประเทศไทย เป็นที่ 1 ด้านการแพทย์และสุขภาพ
 
- ประเทศไทยมีจุดเด่นด้านระบบสาธารณสุขที่มีความเป็นเลิศและสถานพยาบาลระดับโลก พร้อมกับบุคลากรที่มีความสามารถและค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล จึงควรใช้จุดนี้เป็นจุดแข็งและผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้ไประดับโลก
 
- นำรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศมีการใช้เพื่อโปรโมทการรักษาพยาบาลในประเทศไทยและการเปิดรับสวัสดิการพยาบาลจากต่างชาติ เพื่อเสริมสร้างอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพให้ก้าวขึ้นไปยังระดับโลก
 
- การผลักดันแพทย์แผนไทย นวดแผนไทย และสปาแผนไทยสมุนไพรไปสู่เวทีโลก สนับสนุนการส่งออกความรู้และบุคลากรไปต่างประเทศเพื่อเปิดศูนย์ Wellness Center และยกระดับด้วยการรับรองและตรวจสอบคุณภาพ
 
- ระบบสุขภาพสำหรับคนไทยได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น และมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์
 
มาตรการทั้งหมดนี้มุ่งหวังที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็น Medical Hub ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพิ่มรายได้ให้กับประเทศอีกด้วยการให้บริการแพทย์ที่มีคุณภาพสำหรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
 
3. จุดพลังศักยภาพประเทศไทย เป็นที่ 1 ด้านการเกษตรและอาหาร
 
การพัฒนาของประเทศไทยในด้านเกษตรกรรมและอาหารยังคงคงความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเราต้องยึดมั่นและสร้างสรรค์ให้เติบโตไปอย่างยั่งยืน
 
วัฒนธรรมอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์และคุณค่าของเรา ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ด้วยคุณภาพและรสชาติที่อร่อย ร้านอาหารที่ได้รับรางวัลและเครื่องย่อยของ Michelin มากมาย ก่อให้เกิดมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองแห่งอาหารโลก ด้วยการใช้ความสามารถในการเกษตรและอาหารของเราให้เป็นที่ยอมรับในทุกๆ มุมโลก
 
การยกระดับเกษตรกรไทยจึงเป็นสำคัญ เพื่อให้มีการขยายแหล่งชลประทาน การจัดการน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างเหมาะสม รวมถึงการลดผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
 
การวางแผนการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับตลาดรองรับ เพื่อเพิ่มการผลิตและส่งออกของพืชอาหารเช่นถั่วเหลืองและมันฝรั่ง เพื่อสร้างรายได้และการค้าขายที่ยั่งยืน
 
เรายังสนับสนุนการผลิตอาหารที่มีปริมาณและคุณภาพเพื่อเลี้ยงคนทั่วโลก โดยให้ความสำคัญกับการสร้างและพัฒนาอาหารแบบดั้งเดิมและอาหารที่เหมาะสมกับอนาคต
 
การเพิ่มจำนวนร้านอาหารมิชลินและร้านอาหารเชลล์ชวนชิม เป็นวิทยาการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางอาหารของภูมิภาคและปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจและสังคม
 
"ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในกระเป๋ามีเงิน"
 
4. จุดพลังศักยภาพประเทศไทย เป็นที่ 1 ด้านการบิน
 
จุดแข็งทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยทำให้เป็นศูนย์กลางทางการบินและการขนส่งที่สำคัญในภูมิภาค อีกทั้งยังมีประชากรที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนกว่า 280 ล้านคน ติดท็อป 5 ของโลก สร้างโอกาสให้ผู้คนทั้งภายในและภายนอกสามารถมาอาศัย ท่องเที่ยว หรือทำงานในระดับต่าง ๆ ที่พวกเขาเลือก ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารสตรีทฟู้ดหรือร้านอาหารชั้นนำระดับ Michelin และยังมีที่พักที่หลากหลายให้เลือกสรรค์
 
ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทยคือการเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวและการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับ และเป็นศูนย์กลางของสุขภาพและเกษตรกรรมด้วย การปรับเส้นทางการบินและการพัฒนาระบบขนส่งเพื่อให้สามารถรองรับการขนส่งสินค้าที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบินและซ่อมบำรุงที่สำคัญในภูมิภาค
 
การขยายสนามบินให้เป็นศูนย์กลางที่สามารถให้บริการสายการบินทั้งในประเทศและต่างชาติเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อสร้างโอกาสให้กับสายการบินที่จะเลือกเป็นฐานที่อยู่ในประเทศไทย นอกจากนี้ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารยังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้เดินทางสามารถเลือกใช้บริการที่สนามบินในประเทศไทยเป็นจุดแวะพักและขยายฐานกิจการไปยังเมืองรอบข้างได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อยกระดับการบริการทั้งในภูมิภาคและภาคพื้นให้ดียิ่งขึ้นและเป็นที่รู้จักในระดับโลกอย่างยั่งยืน
 
5. จุดพลังศักยภาพประเทศไทย เป็นที่ 1 ด้านการขนส่ง
 
- เพิ่มความสามารถในระบบคมนาคมทั้งในและนอกประเทศเพื่อเสริมโอกาสในเศรษฐกิจและการกระจายอำนาจเศรษฐกิจไปยังพื้นที่เมืองเล็ก
 
- การขยายทางหลวงและทางพิเศษในปี 2050 เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการเดินทาง ได้แก่การขยาย Motorway 10 จาก 250 กม. เป็นเกือบ 2,500 กม. และการขยายทางหลวงแผ่นดิน 4 เลนจาก 20,000 กม. เป็น 23,000 กม. ซึ่งครอบคลุมทั่วทั้งประเทศจากเหนือไปถึงใต้
 
- การขยายระบบรางขนส่งให้ครอบคลุมทั่วประเทศในปี 2030 เพื่อเชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศอื่น ๆ อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับเส้นทางไปจีนและมาเลเซียใต้ รวมถึงการเพิ่มระยะทางของรถไฟฟ้ารางคู่อีก 2,000 กม. เพื่อรวมระยะทางทั้งหมดเป็น 5,500 กม. และการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงกับสนามบินและชายแดนในหนองคาย
 
- การขยายท่าเรือน้ำลึกเพื่อเพิ่มการส่งออกสินค้าและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีความหนักหน่วยงาน การเชื่อมต่อ LANDBRIDGE Mega Project เพื่อเป็นโอกาสใหม่ให้กับประชาชนไทยในการต่อรองในสถานการณ์โลก
 
- การยกระดับการบริการผ่านระบบ one stop service ซึ่งช่วยให้การทำงานภายในรัฐบาลและระบบเอกสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยปรับภาพลักษณ์ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
- ระบบคมนาคมที่ดีและการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนและการพัฒนา เช่นการส่งออกวัตถุดิบจากเกษตรกรไทยไปยังตลาดโลกและการมีบริษัทชั้นนำระดับโลกมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งสร้างงาน สร้างโอกาส และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประชาชนไทยทุกคน
 
6. จุดพลังศักยภาพประเทศไทย เป็นที่ 1 ด้านการผลิตยานยนต์
 
การเติบโตของเศรษฐกิจไทยเป็นแบบก้าวกระโดดด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนไทยมากมาย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไปสู่การใช้งานรถยนต์ระบบไฟฟ้า (EV) ได้ผลักดันให้มีจองรถ EV สูงถึง 40% ในงานมอเตอร์โชว์ปี 2566 นั้นเอง
 
ความต้องการในการใช้งานรถยนต์ EV ในประเทศไทยมีอยู่และมีศักยภาพในการส่งออกไปยังตลาดระหว่างประเทศอีกด้วย ดังนั้นเราจึงต้องรักษาตำแหน่งของเราในภูมิภาคในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ที่เป็นที่ 1
 
การส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้ทำให้เกิดห่วงโซ่อุปทานในประเทศเรา เป็นระบบที่ครอบคลุมอย่าง ECOSYSTEM ซึ่งประกอบไปด้วย แบตเตอรี่ ชิ้นส่วน ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ยางรถ สถานีชาร์จ และการรีไซเคิล
 
การสนับสนุนค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์แห่งอนาคตได้ด้วย เริ่มตั้งแต่เครื่องยนต์ภายในรถยนต์แบบเครื่องยนต์ดีเซลไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์แห่งอนาคตอื่น ๆ เช่น การใช้ไฮโดรเจน
 
ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้เข้าหารือและพูดคุยกับบริษัทรถยนต์มากกว่า 10 ราย โดยได้รับการตอบรับในการลงทุนมูลค่า 150,000 ล้านบาท
 
แผนการลงทุนในระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาลมีเป้าหมายอยู่ที่การลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นจำนวน 1 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างความเจริญเติบโตในสายงานนี้อย่างยั่งยืนและยกระดับอุตสาหกรรมรถยนต์ของเราให้เป็นที่ที่โดดเด่นในภูมิภาค
 
7. จุดพลังศักยภาพของประเทศไทยเป็นที่ 1 ในการเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัล
 
การลงทุนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่น โดยการสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการเติบโตของมหาเศรษฐีเทคโนโลยีในอนาคต ประเทศไทยมีนักพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่า 3 ล้านคนและจำนวนคนไทยที่จบการศึกษาในสาขาเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นทุกปี
 
ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้เริ่มเชิญชวนการลงทุนและเดินหน้าด้านการดึงดูดการลงทุนในเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเน้นที่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการขยายกิจการในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
 
การสร้างกองทุน Matching Fund มีไว้เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันของ Startup และการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขยายกิจการและให้โอกาสให้กับ Startup ที่จะเติบโตเป็น Unicorn ของประเทศไทย
 
การดึงดูดการลงทุนไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสให้คนไทยได้กลับมาพัฒนาประเทศเท่านั้น แต่ยังดึงดูดผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เพื่อมาถ่ายทอดความรู้และเสริมสร้างบุคลากรในอุตสาหกรรม ทำให้บุคลากรไทยสามารถเติบโตและมีรายได้สูงได้รับการยอมรับในตลาดแรงงานอันทันสมัย
 
8. จุดพลังศักยภาพประเทศไทย เป็นที่ 1 ด้านการเงิน
 
 
เพื่อให้เกิดการเติบโตในอุตสาหกรรมทั้งหมดอย่างมีความแข็งแกร่ง เราต้องระเบิดศักยภาพทางการเงินของเรา
 
- โดยประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย โดยมีความพร้อมทั้งด้านสิ่งอำนวยความสะดวก เดินหน้าปลดล็อคข้อจำกัดของกฎหมายเทคโนโลยี และปลดล็อคข้อจำกัดด้านภาษี
 
- ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมี Market cap ที่ใหญ่ที่สุดใน ASEAN นอกจากนี้ยังมีการดึงดูดเม็ดเงินจาก Sovereign Wealth Fund ของตะวันออกกลาง เพื่อยกระดับตลาด SET ไทย
 
- การดึงดูดสถาบันการเงินทุกรูปแบบมาตั้งสำนักงานในประเทศไทย เช่น กองทุน ธนาคารระดับโลก Hedge fund Venture Capital และ Private Equity ซึ่งทำให้ประเทศไทยกลายเป็น Wall Street แห่ง ASEAN
 
- การเงินแห่งอนาคตที่ใช้ Digital Asset ระบบ Blockchain เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อแปลงสินทรัพย์เป็นรูปแบบ Digital Asset เข้าถึงระบบการเงินที่มีต้นทุนต่ำและทำธุรกรรมได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังออกกฎหมายรับรองสิทธิ Digital Asset
 
- การใช้ Carbon Credit เป็นเทรนด์ใหม่ของสิ่งแวดล้อมมลพิษและปัญหาโลกร้อน โดยประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกมากมายที่สามารถผลิต Carbon Credit ได้มากมาย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนสินค้าส่งออก และทำให้ผู้ประกอบการไทยมีแข่งขันได้ในตลาดโลก
 
ที่มา: นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 

เขียนโดย : น.ส.จุฑาทิพ  รุณสุข สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : juthathip.r@mhesi.go.th