Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจ ไทยเป็นที่หนึ่ง 138
จากปาฐกถาพิเศษของท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ทำให้เราได้เห็นถึงจุดโฟกัส เป้าหมายและทิศทางของประเทศไทยต่อจากนี้ โดยทางนายกฯ ได้มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมและกิจกรรมหลักๆ 8 ด้าน ดังนี้
การท่องเที่ยว
4 มาตรการยกระดับการท่องเที่ยว
1.เมืองทุกเมืองคือเมืองท่องเที่ยว ยกระดับ Soft Power
ทุกจังหวัดทั้งเมืองหลัก เมืองรอง ต้องเป็นเมืองท่องเที่ยว เฟ้นหา soft power เพื่อหา ‘เสน่ห์’ของประเทศไทย
งานเทศกาล งานศิลปะ งานภาพยนตร์ คอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า วัฒนธรรม งานประชุมระดับนานาชาติ อาหาร กีฬา ศิลปะป้องกันตัว
2.เทศกาลระดับโลกสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม
ประเทศไทยจะไม่หลับใหล เราจะมีงานเทศกาล งานคอนเสิร์ต งานศิลปะ งานแสดงสินค้าในประเทศไทยตลอดทั้งปี สร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ นำเงินลงทุนหลัก ‘แสนล้าน’
3.เที่ยวไทยไปได้ทั่วภูมิภาค
ผลักดันการท่องเที่ยวให้ประเทศไทย กลายเป็นศูนย์กลาง
ONE VISA FREE YOUR DESTINATION
FREE VISA ให้นักท่องเที่ยว จีน คาซักสถาน อินเดีย และไต้หวัน
เปิดประตูนักท่องเที่ยว 2900 ล้านคน
4. แก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว
เวลาเปิดสถานบริการ
ปรับเปลี่ยนเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สนับสนุนการเฉลิมฉลองในสนามกีฬา
ให้ประเทศไทยเป็น Homestay ของคนทั่วโลก สินค้า OTOP ภาคท่องเที่ยว ภาคบริการ ร้านอาหาร ภาคขนส่ง เปิดประตูรับเงินสดส่งตรงถึงมือทุกคน
การแพทย์และสุขภาพ
- ระบบสาธารณสุขของประเทศไทย เป็นจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว แล้วทำไม ไม่ผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้ไประดับโลก
- 3 เหตุผล ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นเลิศทางการแพทย์มีชื่อเสียงระดับโลก ‘world class’
1.สถานพยาบาลระดับ world class
2.บุคลากรมีความสามารถเป็นที่ยอมรับ
3.ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล
- นำเงินนำรายได้เข้าประเทศ เดินหน้าโปรโมทให้ต่างชาติเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทย เปิดรับสวัสดิการพยาบาลจากต่างชาติ ให้เข้ามารับบริการในประเทศไทย
- ผลักดันการแพทย์แผนไทย นวดแผนไทย สปาแผนไทยสมุนไพรไปสู่เวทีโลก
1.สนับสนุนการส่งออกคน ให้ไปเปิดศูนย์ Wellness Center ในต่างประเทศ
2.ยกระดับด้วย Certificate
3.ต้องมีกระบบในการ ตรวจสอบคุณภาพใบอนุญาต เพื่อปกป้องชื่อสียง
- ระบบสุขภาพสำหรับคนไทย 30 บาทรักษาทุกโรค >> 30 บาทรักษาทุกที่นำร่องไปแล้ว 4 จังหวัด
1.al เชื่อมฐานข้อมูล บัตรประชาชนใบเดียวเชื่อมโยงประวัติ
2.เพิ่มจานวนบุคลากร ให้เพียงพอกับความต้องการ
3.พัฒนาคุณภาพ และยกระดับชีวิตบุคลาการ
- มาตรการทั้งหมดจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็น Medical Hub ของเอเเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีระบบพยาบาลชั้นเลิศสำหรับคนไทย กลายเป็นจุดขายนำเงินเข้าประเทศ
เกษตรกรรมและอาหาร
-บนเวทีโลก ประเทศไทย = เกษตรกรรม 🡪 ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
-วัตถุดิบดี เข้าถึงได้ตลอดปี อาหารไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก
-อาหารไทย อร่อยติดอันดับโลก
ร้านอาหารที่ได้รับเลือก bib gourmand 196 ร้าน michelin star ร้าน สร้าง value ให้อาหารไทยเพิ่มขึ้น
-ยกระกับการเป็นเมืองแห่งอาหารโลก ‘ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในกระเป๋ามีเงิน’ ให้กลายเป็น ครัวของโลก
-ยกระดับส่งเสริมเกษตรกรไทย
1.ขยายแหล่งชลประทาน 40 ล้านไร่
2.บริหารจัดการน้ำท่วม น้ำแล้ง
3.ดูแลการเพาะปลูก
4.ลดผลกระทบทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5
-วางแผนการเพาะปลูกให้มีตลาดรองรับ >> ถั่วเหลือง มันฝรั่ง ลดการนำเข้า เพิ่มการผลิต เพื่อส่งออก
-สนับสนุน เพิ่มการผลิต “ปริมาณ”อาหาร และโภชนาการที่เลี้ยงคนทั้งโลก อาหารแบบดั้งเดิม / อาหารแห่งอนาคต / อาหารฮาลาส / อาหารเสริมวิตามิน
- เพิ่มจำนวนร้านอาหารมิชลินจำนวนร้านอาหารเชลล์ชวนชิม ->ดึงดุดนักท่องเที่ยวทั่วโลก > ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางอาหารของภูมิภาค > กลายเป็นปัจจัย 4 เป็นครัวของโลก
อุตสาหกรรมการบิน
-ประเทศ จุดแข็งทางภูมิศาสตร์มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางคมมาคม และขนส่ง
-ประชากรในประเทศไทย กำลังเติบโตขึ้น ติด top 5 ของโลก 280 ล้านคน
-ผู้คนสามารถมาอาศัย มาเที่ยว มาทำงาน ในทุกระดับราคาที่เลือกได้ ไม่ว่าจะร้านอาหาร street food ร้านอาหาร Michelin ที่พักหลากหลาย
-ศูนย์กลาง การท่องเที่ยว การแพทย์ และ สุขภาพ อาหารและเกษตรกรรม
-ทำไมประเทศไทยถึงเป็นศูนย์กลางการบิน ของภูมิภาคไม่ได้ >>
HUB CASE STUDY > สายการบินปรับเปลี่ยนเส้นทางการบิน เพื่อ Transit
พัฒนาระบบขนส่งที่รองรับการขนส่งสินค้าเย็นอย่างครบวงจร
เป็นศูนย์กลางทางการบิน ศูนย์กลางซ่อมบำรุง
-ศักยภาพสนามบินพร้อมจะขยายเป็น hub ให้สายการบินทั้งไทยและต่างชาติสามารถเข้ามาสร้าง homebase ในประเทศไทย
-ประเทศไทยเหมาะสมที่สุด ที่จะเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค
เปลี่ยนให้ไทยเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงของภูมิภาค เพิ่มศักยภาพการบริการ สร้างระบบขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ปรับปรุงอาคารโดยสารให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ขยายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด เป็นจุดแวะพักได้นานขึ้น ยกระดับการบริการภาคพื้น เชื่อมต่อไปยังเมืองรองประเทศรอบข้าง
การขนส่ง
-เพิ่มศักยภาพระบบคมนาคมอื่นๆใน และนอกประเทศ เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจกระจายความเจริญจากเมืองใหญ่สู่เมืองเล็ก
-ขยายถนนหลักถนนรอง ในปี 2050
> ขยาย Motorway 10 เท่า จาก 250 กม. เป็นเกือบ 2,500 กม.
> ขยายทาง หลวงแผ่นดิน 4 เลน จาก 20,000 กม. ให้เป็น 23,000 กม. ครอบคลุมเหนือจรดใต้
-ขยายระบบราง ให้ครอบคลุมทั่วประเทศในปี 2030
>เพิ่มระยะทาง รถไฟฟ้ารางคู่ อีก 2,000 กม.เป็น 5,500 กม. ครอบคลุมทั่วประเทศ เชื่อมต่อ ไทย จีน มาเลเซียใต้
>รถไฟฟ้า กรุงเทพฯ และภูมิภาค มีระยะทางเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ครอบคลุม เส้นทางเกือบ 700 กม
>รถไฟฟ้า ความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน เชื่อมชายแดนหนองคาย
- เชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึก
>ขยายท่าเรือ น้าลึกแหลมฉบัง ส่งสินค้า|อุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิค | อุตสาหกรรมชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอาการ
> LANDBRIDGE Mega Project
คือโอกาสของคนไทย คืออำนาจต่อรองในเวทีโลก
- ยกระดับการทำงานด้วย one stop service แก้ไขระบบราชการ + แก้ไขระบบเอกสาร > ทำให้เกิดขึ้นไว ปรับภาพลักษณ์ของประเทศ
- ระบบคมนาคมที่ดี มีชายแดนติดต่อกับเพื่อนบ้านระยะทางใกล้กับศูนย์กลางเศรษฐกิจ > คือขุมทรัพย์ ที่จะนำเงิน เช้ากระเป๋าคนไทยทุกกลุ่ม
> สร้างงาน + สร้างโอกาส + สร้างอนาคต
= วัตถุดิบสดใหม่จากเกษตรไทยทั่วประเทศ ส่งถึงมือผู้บริโภคทั่วโลก
= บริษัทชั้นนำระดับโลก มาตั้งฐานการลงทุนในประเทศไทย
การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต
-เศรษฐกิจไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด
>อุตสาหกรรมยานยนต์เกี่ยวข้องกับคนไทยนับล้าน
>เปลี่ยนผ่านไปสู่รถ EV
>สู่ยอดจองรถ EV ที่ถล่มทลายในมอเตอร์โชว์ 2566 40%
**เรามีความต้องการรถ EV ในประเทศ และมีศักยภาพในการส่งออก เราต้องรักษาตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ No.1ของภูมิภาค**
-ส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้เกิดห่วงโซ่อุปทาน เป็น ECOSYSTEM ในประเทศ
>แบตเตอรี่ >ชิ้นส่วน >Software >Hardware >ยางรถ >สถานีชาร์จ >Recycle
-สนับสนุนค่ายรถญี่ปุ่นให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต
เครื่องยนต์สันดาปภายใน ICE > เครื่องยนต์ Hybrid HEV > รถยนต์ไฟฟ้า EV = รถยนต์แห่งอนาคตอื่นๆ(Hydrogen)
-6 เดือนของรัฐบาลได้หารือ พูดคุยกับบริษัทยานยนต์ ไปมากกว่า 10 ราย > ตอบรับการลงทุน 150,000 ล้านบาท
-4 ปีของรัฐบาลมีเป้าหมาย > แผนการลงทุน 1 ล้านล้านบาท
เศรษฐกิจดิจิทัล
-การลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
สร้างพื้นที่ไว้รองรับมหาเศรษฐเทคโนโลยีในอนาคต > ประเทศไทยเรามีนักพัฒนาซอฟต์แวร์กว่า 3 ล้านคน > คนไทยจบคณะเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นทุกปี
-ตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลมา 6 เดือน เราได้เชิญชวนการลงทุน เราได้เดินหน้า ดึงดูการลงทุน
>DIGITAL ECONOMY
>กองทุนเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ
-กองทุน Matching Fund เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของ Startup แก้ไขกฎกติกา + สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา >> ขยาย Start และเป็น Unicorn ของประเทศไทย
-ดึงดูดการลงทุน > คนไทยทั่วโลกกลับเข้ามาพัฒนาประเทศ X ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญ>นำผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆมาถ่ายทอดความรู้สู่คนไทย = บุคลากรในอุตสาหกรรมจะเติบโตอย่างรวดเร็ว > คนไทยเข้าถึงงานหลังเรียนจบทันที มีรายได้สูงได้รับการยอมรับ
ด้านการเงิย
เป้าหมายอุตสาหกรรมทั้งหมดจะเติบโตขึ้นได้ ให้มีความแข็งแกร่งทางระบบการเงิน เราต้องระเบิดศักยภาพ
-ประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชียล้วนเป็นประเทศขนาดเล็ก ประเทศไทยมีศักยภาพที่พร้อมสำหรับการลงทุนของสถาบันการเงิน
> สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม
>เดินหน้าปลดล็อคข้อจำกัดของกฎหมายเทคโนโลยี
>เดินหน้าปลดล็อคข้อจำกัดด้านภาษี
-ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีศักยภาพอีกมาก ปริมาณซื้อขายสูง Market cap ที่ใหญ่ที่สุดใน ASEAN ยกระดับตลาด SET ไทย ดึงดูดเม็ดเงินจาก Sovereign Wealth Fund ของตะวันออกกลาง
-ดึงดูดสถาบันการเงินทุกรูปแบบให้มาตั้งสำนักงานในประเทศไทย
>กองทุน
>ธนาคารระดับโลก
> Hedge fund
> Venture Capital
> Private Equity
****ประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด กลายเป็น Wall Street แห่ง ASEAN****
-การเงินแห่งอนาคต Digital Asset ใช้ระบบ Blockchain เป็นโครงสร้างพื้นฐาน แปลงสินทรัพย์เป็นรูปแบบ Digital Asset เข้าถึงระบบการเงินที่มีต้นทุนต่ำทำธุรกรรมได้รวดเร็วขึ้น > ออกกฎหมายรับรองสิทธิ Digital Asset
-Carbon Credit เทรนด์ใหม่ของสิ่งแวดล้อมมลพิษ และปัญหาโลกร้อน
>ไทยมีพื้นที่เพาะปลูกมากมาย ผลิต Carbon Credit ได้มหาศาล เปลี่ยนวิธีการทำเกษตรกรรม
>ตั้งศูนย์ซื้อ-ขาย Carbon Credit ของภูมิภาคในประเทศไทย
>ปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย
>ลดต้นทุนสินค้าส่งออก
>ผู้ประกอบการแข่งขันในเวทีโลกได้
นี่คือแนวคิดและแนวทางการปฏิบัติจากท่านนายกฯ ซึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องว่าจะร่วมกันผลักดันให้เป็นจริงได้อย่างไร เพราะหากทำได้จริงจะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของประเทศเราได้เป็นอย่างมาก