Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
Lessons Learned จากงาน อว.แฟร์ 2025 กับ มุมมองด้านการต่างประเทศ 45
Lessons Learned จากงาน อว.แฟร์ 2025 กับ มุมมองด้านการต่างประเทศ 45
Lessons Learned จากงาน อว.แฟร์ 2025 กับ มุมมองด้านการต่างประเทศ
1. ภาระงานที่ได้รับมอบหมาย บทบาท และหน้าที่ในกิจกรรม
1.1 การรับรองแขกต่างประเทศที่เข้าร่วมพิธีเปิดงาน อว.แฟร์ ในวันที่ 9 สิงหาคม 2568 โดยมีบทบาท/หน้าที่ในการให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่แขกต่างประเทศที่เข้าร่วมพิธีเปิดงาน อว. แฟร์ ประกอบด้วย ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศ และหน่วยงานของต่างประเทศในประเทศไทย ตั้งแต่การลงทะเบียนหน้างาน และเชิญเข้างานตามลำดับที่นั่ง (Seating) ที่จัดไว้ โดยปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ กกต. สป.อว. และ อพวช.
1.2 การเป็นเจ้าหน้าที่ประจำบริเวณเวทีย่อยโซน Craft Market เพื่อรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ของโซน ตลอดจนการเข้าร่วมกิจกรรมของโซนอื่น ๆ ภายในงาน อว.แฟร์
1.3 การเข้าร่วมสัมมนาวิชาการที่จัดภายในงาน อว. แฟร์ โดยได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการ หัวข้อ Human Capital Capacity Building: Cross-border Opportunities in Higher Education& Researchซึ่งจัดโดยกองการต่างประเทศ (กกต.) สป.อว. ในวันที่ 11 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุม 210CDชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
1.4 การร่วมเป็นคณะผู้อัญเชิญถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการประกวด MHESI Variety Music Award 2025 รอบชิงชนะเลิศ ในวันวันที่ 16 สิงหาคม 2568 ณ เวทีกลาง อว.แฟร์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
2. ความสำเร็จในการมีส่วนร่วมของกิจกรรม
2.1 การรับรองแขกต่างประเทศที่เข้าร่วมพิธีเปิดงาน อว.แฟร์ ในวันที่ 9 สิงหาคม 2568 สำเร็จเรียบร้อย แม้ว่ามีปัญหาเรื่องการสื่อสาร (Lack of Communication) ในเรื่องข้อมูลรายชื่อแขกต่างประเทศ (List of Delegate) ลำดับพิธีการ (Protocol) การนัดหมาย/ประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ (Information Sharing) ตลอดจนรายชื่อแขกที่ตกหล่น แต่ก็สามารถร่วมกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ลุล่วงไปได้
2.2 การเป็นเจ้าหน้าที่ประจำบริเวณเวทีย่อยโซน Craft Market ในวันที่เข้าร่วมงาน อว.แฟร์ ได้แก่ วันที่ 9, 11, และ 14-16 สิงหาคม 2568 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยได้มีการถ่ายภาพบรรยากาศ และถ่ายคลิป VDO บริเวณตลาดและเวทีย่อยโซน Craft Market ในช่วงเวลาต่าง ๆ เพื่อรายงานสถานการณ์และแจ้งในกลุ่ม LINE กปว. สายด่วน รวมถึงการเข้าร่วมชมงานและร่วมกิจกรรมของโซนต่าง ๆ ภายในงาน อว.แฟร์ ซึ่งพบว่ามีเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครอง คุณครูและเด็กนักเรียน และกลุ่มนิสิต นักศึกษาบ้างเล็กน้อย
2.3 การเป็นผู้แทนร่วมกับนางสาวประภาวีร์ วรกรรณ – นวค.ปก. เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการ หัวข้อ Human Capital Capacity Building: Cross-border Opportunities in Higher Education& Researchซึ่งจัดโดยกองการต่างประเทศ (กกต.) สป.อว. ในวันที่ 11 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุม 210CDชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีสาระสำคัญจากการอภิปรายในหัวข้อ "Beyond Borders: Exploring Global Opportunities in Higher education and Research" โดยมีผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตและหน่วยงานต่างประเทศในประเทศไทย ร่วมแบ่งปัน Best Practice และโครงการสำคัญที่ประเทศไทยสามารถเข้าร่วมได้ ดังนี้
- ทุน Erasmus+ (โดยผู้แทนจาก EU ประเทศไทย) เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักศึกษา ในการศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรร่วมในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ (Top ranked university) ของยุโรป
- ทุนวิจัย Franco-Thai และ PHC Siam Program (โดยผู้แทนสถานทูตฝรั่งเศส) เน้นกลุ่มนักวิจัยรุ่นใหม่ ที่อายุไม่เกิน 35 ปี ในการไปทำวิจัยร่วมกับทีมนักวิจัยของฝรั่งเศส
- ความร่วมมือด้านการอุดมศึกษาระหว่างไทย-ออสเตรเลีย (โดยผู้แทนสถานทูตออสเตรเลีย) ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ การจัดสัมมนาด้านนโยบายการศึกษา รวมถึงการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมสำหรับประเทศอาเซียน (IEIF ASEAN Research Collaboration Project)
- ความร่วมมือกับ British Council (BC) (โดยผู้แทน BC ประเทศไทย) โดยมุ่งเน้นความร่วมมือในด้าน TNE (Transnational Education) ระหว่างมหาวิทยาลัยไทย-UK ในการสนับสนุนทุนการศึกษาระยะสั้น (17 เดือน) สำหรับนักศึกษาทั้งสองฝ่าย รวมถึงทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรม ในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และด้านอื่น ๆ ที่เป็นความสนใจร่วมของทั้งสองประเทศ
- ทุนและโคงการแลกเปลี่ยนภายใต้ศูนย์ SEAMEO (โดยผู้แทน SEAMEO RIHED) เช่น โครงการ AIMS สำหรับนักศึกษาประเทศอาเซียน ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับ Science for Sustainable Development (SSD) เช่น ด้านการเกษตร ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านอาหาร ด้าน STEM เป็นต้น
- โดยโครงการดังล่าวข้างต้นนับเป็น "ทางเลือก" และ "โอกาส" ที่น่าสนใจสำหรับบุคลากร กปว. ในการสมัครเข้าร่วม โดยเฉพาะทุนศึกษาต่อและฝึกอบรม (ระยะสั้น) ในต่างประเทศ ซึ่ง กกต. ในฐานะ focal point จะมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลถึงกอง/ศูนย์/กลุ่มใน สป.อว. ต่อไป
2.4 การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการประกวด MHESI Variety Music Award 2025 รอบชิงชนะเลิศ ในวันวันที่ 16 สิงหาคม 2568 ณ เวทีกลาง อว.แฟร์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้รับมอบหมายให้เป็นคณะอัญเชิญถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งก็ได้มีการซักซ้อมลำดับและพิธีการก่อนเริ่มการประกวด และท้ายที่สุด งานก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
3. ถอดบทเรียน (Lessons Learned)
3.1 จากการได้ไปร่วมชมงาน อว. แฟร์ เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และการได้มีส่วนร่วมในงานอ อว.แฟร์ (SCI POWER FOR FUTURE THAILAND) ระหว่างวันที่ 9-17 สิงหาคม 2568ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ผ่านมานั้น ทำให้ได้เห็นพัฒนาการของงานดังกล่าวได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความน่าตื่นตาตื่นใจของเทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงภายในงาน และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลอง/มีส่วนร่วม/สัมผัสประสบการณ์ที่ล้ำสมัย สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นความสำเร็จของงาน คือ จำนวนผู้เข้าร่วมงานที่สูงขึ้นกว่าปีก่อนอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม จากที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับบูธของหน่วยงานต่าง ๆ ภายในงาน พบว่าหลายแห่งมีความเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายที่มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ปกครองและเด็กเล็ก ซึ่งให้ความสนใจกับบูธที่มีกิจกรรม เครื่องเล่น เกม มากกว่าบูธที่นำเสนอผลงานเทคโนโลยี งานวิจัย หรือนวัตกรรมในเชิงวิชาการ ส่งผลให้หน่วยงานหลายแห่งคิดว่ากิจกรรมนี้ยังไม่ใช่เวทีที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของตนเอง ตลอดจนบางแห่งก็เห็นว่าอาจจะต้องปรับรูปแบบการนำเสนอของบูธให้น่าสนใจขึ้นในงาน อว.แฟร์ ครั้งต่อไป
3.2 จากการที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กกต. และ อพวช. ในการรับรองแขกต่างประเทศที่เข้าร่วมพิธีเปิด อว. แฟร์ ในวันที่ 9 สิงหาคม 2568 นั้น แม้ว่าพิธีเปิดจะเสร็จสิ้นลงไปด้วยดี แต่ทว่าก็พบปัญหาหลายประการที่ส่งผลให้การดำเนินงานเกิดความสับสนและไม่เรียบร้อย จึงขอสรุปประเด็น พร้อมข้อเสนอแนะแนวทางสำหรับการดำเนินงานในปีต่อไป
-
แบบตอบรับเข้าร่วมงาน (Registration Form) ของแขกต่างประเทศพบข้อผิดพลาดบางประการ เช่น
一ไม่มีช่องสำหรับกรอกชื่อ-นามสกุลของผู้ลงทะเบียน
一 มีช่องสำหรับให้กรอกข้อมูลหนังสือเดินทาง (Passport) ซึ่งไม่จำเป็นและไม่เกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมงาน อว.แฟร์ และถือว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เทียบได้เท่ากับหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ทั้งนี้ กรณีที่มีการขอเลขหนังสือเดินทางแขกต่างประเทศ มักจะใช้ในกรณีที่เจ้าภาพผู้จัดงานจะรับผิดชอบค่าเดินทางระหว่างประเทศ และใช้สำหรับการออกตั๋วเครื่องบินให้กับแขกเท่านั้น
一 ข้อมูลที่ควรขอเพิ่มเติม ได้แก่ ผู้ประสานงาน/ผู้ติดตาม (กรณีที่เป็นแขก VIP) เจ้าหน้าที่ไม่สมควรจะประสานงานตรงกับแขกระดับผู้บริหาร ดังนั้น จึงควรขอข้อมูลการติดต่อของผู้ติดตาม/เลขานุการของท่านไว้ด้วย รวมถึง การขอ consent เพื่อขอไฟล์รูปถ่าย (หน้าตรง) ของผู้เข้าร่วมงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ให้การต้อนรับจะได้เตรียมตัวได้ล่วงหน้า
一 เนื่องจากแขกต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศในประเทศไทย จะให้ความสำคัญกับพิธีการ (Protocol) เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงธรรมเนียมปฏิบัติและมารยาทสากล จึงควรต้องระบุ Dress code ที่ชัดเจน ซึ่งโดยมากจะกำหนดเป็นชุดสูทสากลหรือชุดประจำชาติ - ผู้จัดงานหรือผู้รับผิดชอบในการเชิญแขกต่างประเทศควรมีการประสานแจ้งรายชื่อแขก VVIP ที่เข้าร่วมพิธีเปิดให้กับแขกต่างประเทศด้วยล่วงหน้า เพราะก่อนที่พิธีเปิดจะเริ่ม ธรรมเนียมปฏิบัติสากลมักจะมีการทักทายและแลกนามบัตรระหว่างกัน
- ทีมที่ได้รับมอบหมายให้รับรองแขกต่างประเทศไมได้รับข้อมูลสรุปรายชื่อแขก รวมถึงผังที่นั่งที่มีการกำหนด Seating code ว่าใครนั่งตรงไหน ลำดับที่เท่าไหร่ ทำให้เกิดความสับสนแลกต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่หน้างาน รวมถึงมีแขกบางกลุ่มที่รายชื่อตกหล่น ไม่มีในรายชื่อลงทะเบียนหน้างาน ทำให้ต้องลงทะเบียนใหม่ ทั้งนี้ ขอเสนอให้มีช่องทางการสื่อสารระหว่างฝ่ายที่ได้รับมอบหมายให้รับรองแขกต่างประเทศ (ได้แก่ กปว. อพวช. กกต. และบริษัท Organizer) เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถซักซ้อมความเข้าใจ ติดต่อประสานงาน นัดหมาย และได้รับทราบข้อมูลที่ตรงกัน
3.3 เนื่องจากโซนต่าง ๆ ภายในงาน ต่างก็มีเวทีย่อย ส่งผลให้ในบางช่วงเวลาที่ทุกเวทีย่อยต่างก็มีกิจกรรมของตนเอง ทำให้เสียงรบกวนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบูธของ ทปอ. ที่จัดให้นักเรียนที่มาร่วมงานได้ทดลองทำข้อสอบ TCAS ซึ่งขณะที่มีการจัดทดลองสอบนั้น อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง ไม่เหมาะสำหรับการจัดเป็นพื้นที่ทดลองสอบ หากจะจัดพื้นที่ให้เหมาะสมกว่านี้ ควรปรับเปลี่ยนสถานที่จาก Hall กลางไปเป็นห้องประชุมย่อย ชั้น 2 ของศูนย์ฯ สิริกิติ์ แทน
3.4 ขอเสนอให้ลดจำนวนเครื่องเล่นและกิจกรรมสำหรับเด็กเล็กลง (เช่น บ้านลม ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน) เนื่องจากเสี่ยงต่อความปลอดภัย และในบริเวณดังกล่าว มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่อำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อยทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เผื่อสำหรับอุบัติเหตุ/เหตุฉุกเฉิน รวมถึง ไม่ค่อยสอดคล้องกับธีมงานที่ว่า SCI POWER FOR FUTURE THAILAND เท่าที่ควร แต่อาจจะเหมาะกับงาน อว. For Kids มากกว่า
3.5 กิจกรรมการประกวด UBI-CONซึ่งจัดขึ้นในห้องประชุมชั้น 2 ของศูนย์ฯ สิริกิติ์ มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก และอาจจะมากกว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมหลาย ๆ รายการ ณ บริเวณเวทีกลาง ดังนั้น หากยังมีการจัดการประกวด UBI-CON ในปีต่อไป ก็ขอเสนอให้สนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวได้ใช้พื้นที่บริเวณเวทีกลางในการจัดงาน อีกทั้ง ยังช่วยเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมการประกวดในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นด้วย
【ภาพประกอบ】