Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
โครงการ UBI Next 71
โครงการพัฒนายุทธศาสตร์และรูปแบบการบริหารหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจใน
สถาบันอุดมศึกษา (UBI) ของประเทศไทยในทศวรรษหน้า
_________________________________________________________________________
โครงการหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (University Business Incubator: UBI) เริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงปลายปี พ.ศ. 2547 เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนสถาบันอุดมศึกษาให้นำองค์ความรู้ ผลงานวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์ ในสถาบันอุดมศึกษา ถ่ายทอดสู่กระบวนการบ่มเพาะธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสร้างและพัฒนา นิสิต นักศึกษา อาจารย์ และนักวิจัย ในสถาบันอุดมศึกษาที่สนใจให้เป็นผู้ ประกอบการที่มีศักยภาพ สามารถสร้างรายได้ และผลตอบแทน กลับสู่ สถาบันอุดมศึกษา รวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา ได้ดำเนินงานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่มีการขยายจำนวนหน่วยบ่มเพาะจนปัจจุบันมีผลการดำเนินงานก้าวหน้าตามลำดับ มีการเชื่อมโยงองค์ความรู้ งานวิจัยพัฒนา เทคโนโลยี และนวัตกรรม จากสถาบันอุดมศึกษาไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
สป.อว. ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำหนดทิศทางเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน (Commissioning Body) โครงการหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (University Business Incubator: UBI) ตามนโยบายพัฒนายุทธศาสตร์และรูปแบบการบริหารหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (UBI) ของประเทศไทย เพื่อกำหนดแผนในภาพรวมของการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Position) ให้เป็นกลไกพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งเป็นกลไกในการเชื่อมโยงความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและธุรกิจในสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ สู่การพัฒนาธุรกิจ ด้วยการศึกษาวิเคราะห์ พันธกิจ วิสัยทัศน์ โครงสร้างองค์กร การบริการจัดการและกำกับดูแลหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา ผลงาน บทเรียนความสำเร็จและความล้มเหลว ภายในระยะเวลาย้อนหลัง 20 ปี (พ.ศ. 2547 ถึงปัจจุบัน) สังเคราะห์ออกมาเป็นแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (University Business Incubator/UBI)ของประเทศ ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2566 - 2576) โดยแนวทางการพัฒนาเป็น 3 รูปแบบ คือ
(1) การจัดทำหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาและบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาสู่ความเป็นผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
(2) การพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจที่มีความพร้อมในการให้บริการและมีศักยภาพในการถ่ายทอดองค์ความรู้และการบ่มเพาะธุรกิจ
(3) การยกระดับการให้บริการของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาที่มีโครงสร้างในการบริหารงานโดยมีหน่วยงานกำกับดูแล (Corporate strategy level) ที่ชัดเจน มีการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การบริหารจัดการให้เกิดการเชื่อมโยงของหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกสถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้เกิดธุรกิจฐานนวัตกรรมเพิ่มขึ้นในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ด้วยแนวทางการปฏิรูปการดำเนินงาน โครงการหน่วยบมเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา(University Business Incubator/UBI) จะเป็นแนวทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญสู่ความท้าทายให้กับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตามรัฐบาลที่มุ่งเน้นส่งเสริมการพัฒนาของประเทศที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมซอฟเพาเวอร์ อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ขั้นสูง (Advanced STI) ให้้แก่่ประเทศ ตอบโจทย์์ความต้องการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การเชื่อมโยงกับแหล่งทุนในการส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรมและ การเชื่อมโยงโครงการกับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ ในภูมิภาค เพื่อให้เกิดผลกระทบในเชิงบวกต่อประเทศและสร้างความสามารถทางการแข่งขันของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ยั่งยืนต่อไป
วัตถุประสงค์
1 เพื่อศึกษาแนวคิดและหลักการดำเนินงานของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาที่เป็น
กรณีศึกษาที่ดีทั้งในและต่างประเทศ
2 เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการจำเป็นของการพัฒนาหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจใน
สถาบันอุดมศึกษาของประเทศไทย
3 เพื่อพัฒนายุทธศาสตร์และรูปแบบการบริหารหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาของประเทศไทย โดยแบ่งเป็นระยะสั้น (2 ปี) ระยะกลาง (5 ปี) และระยะยาว (10 ปี)
4 เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายโครงการพัฒนายุทธศาสตร์และรูปแบบการบริหารหน่วยบ่มเพาะ
วิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (UBI)
5 เพื่อออกแบบชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนาหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (UBI) โดยแบ่งเป็น 3 มิติ คือ ด้านโครงสร้างองค์กรและกลยุทธ์ ด้านการเรียนรู้และพัฒนาองค์กร ด้านพัฒนานักศึกษา/บัณฑิตผู้ประกอบการ
6 เพื่อพัฒนากลไกการบริหารโครงการ (Project Management) และการติดตามประเมินผลโครงการ
(Monitoring & Evaluation) ของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และเป็นมาตรฐาน
7 เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการบัญชีของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเป็นมาตรฐาน
ขอบเขตการดำเนินงาน
1 สร้างเครื่องมือเฉพาะในการวิเคราะห์ SWOT โดยกำหนดห่วงโซ่แห่งคุณค่าที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจเป็นห่วงโซแห่งการสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศจากการใช้ วทน. ผ่านหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา
2 พัฒนากลไกการบริหารโครงการ (Project Management) และการติดตามประเมินผลโครงการ (Monitoring & Evaluation) ของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
3 เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินโอกาสและอุปสรรค ในประเด็นหลักสำคัญ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม กฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
4 ศึกษาวิเคราะห์ สภาพ ประวัติ พัฒนาการ ปรัชญา พันธกิจ วิสัยทัศน์ โครงสร้างองค์กรขององค์กรบริการจัดการและกำกับดูแลหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา ผลงาน/บทเรียนความสำเร็จและความล้มเหลว ภายในระยะเวลาย้อนหลัง 20 ปี (พ.ศ. 254๗ ถึงปัจจุบัน) สังเคราะห์ออกมาเป็นจุดแข็งและจุดอ่อนของหน่วยงาน (SW) รวมถึงวิเคราะห์โอกาสและอุปสรรค (OT) ความเสี่ยงและการควบคุมความเสี่ยงขององค์กรบริการจัดการและกำกับดูแล
5 เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญ (Stakeholder analysis) ที่ส่งผลต่อการส่งเสริม
การใช้วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและการพัฒนาหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาโดยแบ่งเป็น
5.1 ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญภายในองค์กร ได้แก่ คณะกรรมการส่งเสริมหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาประธานคณะทำงานเครือข่ายเชิงประเด็น C-UBIคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานUBI ผู้บริหารกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และหัวหน้ากลุ่มงาน
5.2 ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญภายนอกองค์กร ได้แก่ หน่วยงานภายในกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับ
ภารกิจของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาเช่น มหาวิทยาลัย หน่วยงานเจ้าของงานวิจัยและเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง
6 นำเสนอผลการศึกษาแก่กองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม
7 จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนายุทธศาสตร์และรูปแบบการบริหารหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (UBI) ของประเทศไทยในระยะ 10 ปี