เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
ชื่อ
ชุดตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีด้วยเทคโนโลยีไบโอเซนเซอร์
ชม 52 ครั้ง
64
เจ้าของ
รศ. ดร.เบญจพร เลิศอนันตวงศ์
เมล์
มหาวิทยาลัยมหิดล E-mail : benchaporn.ler@mahidol.a
รายละเอียด
โรคมะเร็งตับเป็นโรคที่พบสูงเป็นอันดับ 4 ในชายไทย โดยโรคไวรัสตับอักเสบบี และซีเป็นโรคติดเชื้อที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอาจกลายเป็นผู้ป่วยตับแข็งและมะเร็งตับในอนาคต ปี พ.ศ. 2555 พบผู้ป่วยโรคมะเร็งตับรายใหม่ 7,000 คน คาดการณ์ในปี พ.ศ. 2570 หากประเทศไทยยังไม่มีการจัดการป้องกันควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเป็น 10,000 คน ไวรัสตับอักเสบซีเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับอักเสบแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรังโดยเป็นผลจาไวรัสอาร์เอ็นเอในวงศ์ Flaviviridae มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 170 ล้านคน ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันเนื่องจากยังไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ ทำให้ผู้รับเชื้อไม่ทราบว่ามีตับอักเสบเมื่อผ่านไปประมาณ 10-30 ปีจึงเข้าสู่ระยะตับแข็ง และอีกสิบปีต่อมาจึงถึงระยะท้ายของโรคตับแข็ง เมื่อมีโรคตับแข็งเกิดขึ้นจะมีโอกาสเกิดมะเร็งตับได้ประมาณ 1-3% ต่อปีพบอัตราความชุกผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังประมาณร้อยละ 0.39 คาดประมาณว่ามีผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังประมาณ 356,670 ราย ทั่วประเทศ ประชากรกลุ่มเสี่ยงพบว่าความชุกของโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังสูงสุดในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น และผู้ที่เคยได้รับการฉีดยาจากผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรสาธารณสุข
งานวิจัยนี้ต้องการศึกษาพัฒนาดีเอ็นเอเซนเซอร์ที่เป็นเครื่องมือที่ตรวจวัดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแบบพกพาโดยอาศัยเทคนิคทางเคมีไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพการตรวจวัดเชื้อที่ดี คือ มีความแม่นยำ มีความไวในการตรวจวัดสูง และมีความจำเพาะกับเชื้อไวรัสตับอักเสบซี การพัฒนาดีเอ็นเอเซนเซอร์นี้จะส่งผลให้การตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ในผู้ป่วยที่อยู่ในเขตที่เข้าไม่ถึงการตรวจในโรงพยาบาลและเขตที่เครื่องมือทางด้านการแพทย์เข้าถึงยากสามารถไปเป็นได้ง่ายขึ้นเนื่องจากเซนเซอร์นี้สามารถพกพาได้และด้วยความง่ายในการใช้งานเนื่องจากเครื่องมือไม่ซับซ้อน จะช่วยทำให้ผู้ติดเชื้อได้รับการตรวจวัดโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของการป่วย จะทำให้ผู้ป่วยทุกฐานะ สามารถที่จะตรวจวัดได้ และการที่ผู้ป่วยได้รู้ความผิดปกติของไวรัสตับอักเสบซีล่วงหน้าจะทำให้บุคคลนั้นได้รับความเสี่ยงจากมะเร็งตับน้อยลงและสามารถรักษาได้หายขาด อีกทั้งการตรวจคัดครองนี้ยังช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีที่ยังไม่ออกอาการซึ่งทำให้เกิดการกระจายของเชื้อน้อยลงและจะทำให้เกิดผู้ติดเชื้อใหม่น้อยลงและเป็นการสอดคล้องกับนโยบายขององค์การอนามัยโลกที่ต้องการให้เพิ่มการตรวจคัดกรอง ดูแล และรักษาผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบ
บันทึกโดย
