เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
"วศิน สินธุภิญโญ" นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีภาพ หน่วยวิจัยวิทยาการสารสนเทศ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติหรือเนคเทค บอกว่า นี่คือที่มาของความร่วมมือกันระหว่างเนคเทคกับกรมหม่อนไหม ในการพัฒนาโปรแกรมนับไข่ไหมด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลภาพ
คุณวศิน บอกว่า เดิมทีการตรวจวัดจำนวนไข่ไหมที่กรมหม่อนไหมผลิตกว่า 1 แสนแผ่นต่อปีนี้ จะใช้การประเมินจากการชั่งน้ำหนักเป็นกรัม แล้วคำนวณเทียบสัดส่วนแบบประมาณการ เมื่อเกษตรกรนำไหมไปเลี้ยง จำนวนหนอนไหมที่ฟักออกมาจึงมีจำนวนไม่แน่นอนส่งผลให้การเลี้ยงดูแลได้ยากขึ้น
ทีมวิจัยจึงพัฒนา "โปรแกรมนับไข่ไหม" ขึ้นมา โดยนำเทคโนโลยีด้านการประมวลผลภาพมาประยุกต์ใช้ ซึ่งช่วยให้การนับไข่ไหมสะดวกขึ้น ลดการคลาดเคลื่อนจากวิธีนับแบบเดิม ๆ
นอกจากนี้ยังสามารถเก็บเป็นข้อมูลในการชี้วัดคุณภาพของแม่พันธุ์ และช่วยให้การดำเนินงานมีมาตรฐานมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับการทำงานของโปรแกรมดังกล่าว นักวิจัยบอกว่า อาศัยอุปกรณ์ไอทีอย่างสแกนเนอร์ที่มีระดับความละเอียดประมาณ 1200 dpi ส่วนคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลขั้นต่ำควรใช้อินเทล คอร์ ไอ 5 และระบบปฏิบัติการวินโดว์สเอ็กซ์พี ขึ้นไปลงโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น รวมถึงโปรแกรมเสริมสำหรับดูภาพต่าง ๆ เมื่อต้องการใช้งานแค่สแกนกระดาษไข่ไหมที่ต้องการ เลือกโหมดการทำงานตามชนิดกระดาษที่กำหนดเอาไว้ โปรแกรมจะประมวลผลภาพเห็นเป็นจำนวนเม็ดไข่ไหม ตำแหน่งไข่ไหมที่ตรวจได้ ซึ่งจะแยกได้ทั้งไข่ปกติ ไข่ที่ไม่ได้รับการผสมหรือไข่ที่ไม่มีการฟัก
ปัจจุบันโปรแกรมดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดสอบใช้งานใน 5 ศูนย์ของกรมหม่อนไหม และเตรียมพัฒนาเพิ่มเติมให้ใช้กับสแกนเนอร์ที่มีความละเอียดประมาณ 600 dpi ได้
เพื่อให้สามารถใช้งานกับสแกนเนอร์ที่มีอยู่ได้มากขึ้น
และนี่ก็คือหนึ่งในโครงการพัฒนาระบบอัจฉริยะไหมไทย หรือ สมาร์ท ไทย ซิลค์ ที่มุ่งวิจัยพัฒนาและประยุกต์การใช้เทคโนโลยีให้เข้ากับองค์ความรู้และเพิ่มศักยภาพการผลิตทางด้านหม่อนไหมของไทย