Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
										
										
กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ  535 		
									
								
																	
									
กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ  535 		
									กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ
หลักการ:
- หลักกฎหมายมหาชน สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย จะกระทำการสิ่งใดได้ ต้องมีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับของทางราชการกำหนดให้อำนาจไว้เท่านั้น(กฎหมายจำกัดสิทธิ์)
 - หลักกฎหมายเอกชน สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถกระทำการสิ่งใด ๆ ได้ทุกอย่าง ถ้าไม่มีกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับของทางราชการห้ามไว้
 
กฎหมายเกี่ยวกับการพัสดุในปัจจุบัน:
- พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
 - ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
 
สรุปสาระสำคัญของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560แบ่งออกเป็น 15 หมวด โดยมีหลักการและเหตุผล ดังนี้
- การจัดซื้อจัดจ้างมีกรอบการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
 - มุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลเพื่อความ โปร่งใส และมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
 - คำนึงถึงวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้จ่ายเงิน
 - เน้นการวางแผน และประเมินผลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล
 - ส่งเสริมให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อตรวจสอบและป้องกันการทุจริต
 - การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการเปิดเผยโปร่งใส
 - สร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน
 
คำนิยาม
“การจัดซื้อจัดจ้าง” หมายถึงการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุโดยการซื้อ จ้าง เช่า หรือแลกเปลี่ยน
“พัสดุ” หมายถึง สินค้า งานบริการ งานจ้างที่ปรึกษา งานจ้างก่อสร้าง งานจ้างออกแบบ และควบคุมงานก่อสร้าง
“สินค้า” หมายถึง วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินอื่น ๆ รวมถึงงานบริการที่รวมอยู่ในสินค้านั้นด้วย
“งานบริการ” หมายถึง งานจ้างบริการ งานจ้างเหมาบริการ งานจ้างทำของ และการรับขนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
“งานก่อสร้าง”หมายถึง งานก่อสร้างอาคาร สาธารณูปโภค และการปรับปรุงซ่อมแซม
“ราคากลาง”หมายถึง ราคาที่ใช้เป็นฐานสำหรับเปรียบเทียบราคาที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ยื่นเสนอไว้ซึ่งสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้จริงตามลำดับ ดังต่อไปนี้
- ราคาที่ได้มาจากการคำนวณตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการราคากลางกำหนด
 - ราคาที่ได้มาจากฐานข้อมูลราคาอ้างอิงของพัสดุที่กรมบัญชีกลางจัดทำ
 - ราคามาตรฐานที่สำนักงบประมาณหรือหน่วยงานกลางอื่นกำหนด
 - ราคาที่ได้มาจากการสืบราคาจากท้องตลาด
 - ราคาที่เคยซื้อหรือจ้างครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา 2 ปีงบประมาณ
 - ราคาอื่นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐนั้นๆ
 
ในกรณีที่มีราคาตาม 1) ให้ใช้ราคาตาม 1) ก่อน แต่ถ้าไม่มี ให้ใช้ราคาตาม 2) หรือ 3) และถ้าไม่มีราคาตาม 1) 2) และ 3) ให้ใช้ราคาตาม 4) 5) หรือ 6) โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐเป็นสำคัญ
บททั่วไป
หลักการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานของรัฐ ต้องสอดคล้องกับหลักการ ดังนี้
- คุ้มค่า- ต้องมีคุณภาพ และราคาเหมาะสม
 - โปร่งใส- ต้องทำอย่างเปิดเผย เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีระยะเวลาเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ
 - ประสิทธิภาพและประสิทธิผล- ต้องมีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างล่วงหน้า มีการกำหนดเวลาที่เหมาะสม และมีการประเมินผล
 - ตรวจสอบได้– ต้องมีการเก็บข้อมูลที่เป็นระบบ เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้
 
การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างให้หน่วยงานของรัฐคำนึงถึงคุณภาพ เทคนิค และวัตถุประสงค์ของการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุนั้น และห้ามมิให้กำหนดคุณลักษณะของพัสดุให้ใกล้เคียงกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หรือของผู้ขายรายใดรายหนึ่ง เว้นแต่มียี่ห้อเดียว หรือจำเป็นต้องใช้อะไหล่ของยี่ห้อใด ก็ให้ระบุยี่ห้อนั้นได้
ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐเปิดเผยข้อเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ยื่นเสนอราคาด้วยกัน
การจัดซื้อจัดจ้าง
การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุมี 3 วิธี ดังนี้
- วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป - ให้ผู้ประกอบการทั่วไป ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดเข้ายื่นข้อเสนอ
 - 
		วิธีคัดเลือก – เชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดซึ่งต้อง ไม่น้อยกว่า 3 ราย ให้เข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแต่ ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามกำหนดน้อยกว่า 3 ราย โดยสามารถทำได้เมื่อ
		
- ประกาศเชิญชวนทั่วไปแล้ว ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ หรือข้อเสนอไม่ได้รับการคัดเลือก- พัสดุที่มีคุณลักษณะเฉพาะ
- มีความจำเป็นเร่งด่วน
- มีข้อจำกัดทางเทคนิค
- จำเป็นต้องซื้อจากต่างประเทศ
- ใช้ในราชการลับ
- งานจ้างซ่อมพัสดุที่ต้องตรวจสอบความเสียหายก่อน จึงจะประมาณค่าซ่อมได้
 - 
		วิธีเฉพาะเจาะจง- หน่วยงานภาครัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอหรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคากับหน่วยงานของรัฐโดยตรง สามารถทำได้เมื่อ
		
- ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปและวิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ หรือข้อเสนอไม่ได้รับการคัดเลือก- การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ไม่เกินวงเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
- มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว
- มีความจำเป็นต้องใช้พัสดุโดยฉุกเฉิน เนื่องจากภัยธรรมชาติ
- เป็นพัสดุที่เกี่ยวพันกับพัสดุที่ได้จัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว และจำเป็นต้องจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติม
- เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาด โดยหน่วยงานของรัฐ
- ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง
- กรณีอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง
 
เกณฑ์ในการพิจารณาข้อเสนอ
- โดยทั่วไปจะพิจารณาจากราคา
 - ต้นทุนของพัสดุนั้นตลอดอายุการใช้งาน
 - มาตรฐานของสินค้าหรือบริการ
 - บริการหลังการขาย
 - ผลการประเมินผู้ประกอบการ
 - เป็นพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริม หรือสนับสนุน
 - ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น
 
งานจ้างที่ปรึกษา
งานจ้างที่ปรึกษา มี 3 วิธี ดังนี้
- วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป - ให้ที่ปรึกษาทั่วไปที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดเข้ายื่นข้อเสนอ
 - วิธีคัดเลือก - เชิญชวนเฉพาะที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 3 รายให้ยื่นข้อเสนอ เว้นแต่มีที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดน้อยกว่า 3 ราย
 - วิธีเฉพาะเจาะจง - เชิญชวนเฉพาะที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดรายใดรายหนึ่ง ให้เข้ายื่นข้อเสนอหรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคาโดยตรง
 
หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอวิธีการจ้างที่ปรึกษาให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและวัตถุประสงค์ของงานจ้างที่ปรึกษาเป็นสำคัญโดยให้พิจารณาเกณฑ์ด้านคุณภาพ ดังต่อไปนี้
- ผลงานและประสบการณ์ของที่ปรึกษา
 - วิธีการบริหารและวิธีการปฏิบัติงาน
 - จำนวนบุคลากรที่ร่วมงาน
 - ประเภทของที่ปรึกษาที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
 - ข้อเสนอทางด้านการเงิน
 - เกณฑ์อื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
 
ในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธีวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป หรือวิธีคัดเลือก นอกจากให้พิจารณาเกณฑ์ข้างต้นแล้ว ให้เป็นไปตามเกณฑ์ในการพิจารณาและการให้น้ำหนัก ดังต่อไปนี้ด้วย
- กรณีงานจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินงานประจางานที่มีมาตรฐานเชิงคุณภาพตามหลักวิชาชีพอยู่แล้วหรืองานที่ไม่ซับซ้อน ให้หน่วยงานของรัฐคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านเกณฑ์ด้านคุณภาพแล้ว และให้คัดเลือกจากรายที่เสนอราคาต่ำสุด
 - กรณีงานจ้างที่ปรึกษาที่เป็นไปตามมาตรฐานของหน่วยงานของรัฐหรืองานที่ซับซ้อนให้หน่วยงานของรัฐคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านเกณฑ์ด้านคุณภาพแล้วและให้คัดเลือกจากรายที่ได้คะแนนรวมด้านคุณภาพและด้านราคามากที่สุด
 - กรณีงานจ้างที่ปรึกษาที่มีความซับซ้อนมาก ให้หน่วยงานของรัฐคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านเกณฑ์ด้านคุณภาพแล้วและให้คัดเลือกจากรายที่ได้คะแนนด้านคุณภาพมากที่สุด
 
การทำสัญญา
ต้องทำสัญญาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด โดยความเห็นชอบของสำนักงานอัยการสูงสุf หากมีความจำเป็นต้องทำแตกต่างจากที่กำหนด โดยไม่ทำให้หน่วยงานของรัฐเสียเปรียบ สามารถทำได้ หากเห็นว่ามีปัญหาในทางเสียเปรียบ ให้ส่งร่างให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาก่อน
การร่างสัญญาขึ้นใหม่ให้ส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน เว้นแต่ การทำสัญญาตามแบบที่สำนักงานอัยการสูงสุดได้เคยให้ความเห็นชอบมาแล้ว สามารถกระทำได้
- หากจำเป็นต้องทำสัญญาเป็นภาษาต่างประเทศ ให้ทำเป็นภาษาอังกฤษ และต้องจัดทำข้อสรุปสาระสำคัญแห่งสัญญาเป็นภาษาไทยตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด เว้นแต่ การทำสัญญาตามแบบสัญญาที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
- หากไม่ได้ทำสัญญาตามแบบสัญญา หรือไม่ได้ส่งร่างสัญญา ให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน ให้ส่งสัญญานั้นให้สานักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบในภายหลังได้ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว หรือแก้ไขสัญญาตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ให้ถือว่าสัญญานั้น มีผลสมบูรณ์
- หากไม่ได้ทำสัญญาตามแบบสัญญา หรือไม่แก้ไขสัญญาตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด หรือคู่สัญญา ไม่ตกลงหรือยินยอมให้แก้ไขสัญญาตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด หากข้อสัญญาที่แตกต่างจากแบบสัญญาหรือข้อสัญญา ที่ไม่แก้ไขตามความเห็นของสานักงานอัยการสูงสุดเป็นส่วนที่เป็นสาระสำคัญหรือเป็นกรณีผิดพลาดอย่างร้ายแรง ให้ถือว่าสัญญานั้นเป็นโมฆะ
การจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือหน่วยงานรัฐอาจทำข้อตกลงเป็นหนังสือโดยไม่ทำตามแบบสัญญาที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
- การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือก หรือวิธีเฉพาะเจาะจง หรือการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
 - การจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานรัฐ
 - กรณีที่คู่สัญญาสามารถส่งมอบพัสดุได้ครบถ้วนภายใน 5 วันทำการ นับแต่วันถัดจากวันทำข้อตกลง
 - การเช่าที่ผู้เช่าไม่ต้องเสียเงินอื่นใดนอกจากค่าเช่า
 - กรณีอื่นตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศในราชกิจจานุเบกษา
 
การแก้ไขสัญญาโดยปกติแล้ว สัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือที่ได้ลงนามแล้วจะแก้ไขไม่ได้ เว้นแต่ ในกรณีดังต่อไปนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอานาจที่จะพิจารณาอนุมัติให้แก้ไขได้
- กรณีไม่ได้ทำสัญญาตามแบบที่กำหนด หรือไม่ได้ส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาก่อน ให้ส่งสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาภายหลังได้ เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว หรือให้แก้ไขสัญญา ถ้าแก้ไขให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ถือว่าสัญญานั้นมีผลสมบูรณ์
 - ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลง หากการแก้ไขนั้นไม่ทำให้หน่วยงานของรัฐเสียประโยชน์
 - เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐหรือประโยชน์สาธารณะ
 - กรณีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
 
การงดหรือลดค่าปรับ หรือการขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาต้องกระทำก่อนสิ้นสุดสัญญา และต้องอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้
- เหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐ
 - เหตุสุดวิสัย
 - เหตุเกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่คู่สัญญาไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย
 - เหตุอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
 
การบอกเลิกสัญญาในกรณีที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างไม่สามารถส่งมอบงานหรือทำงานให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอำนาจที่จะบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลงกับคู่สัญญา
ความเป็นโมฆะของสัญญาในกรณีที่สัญญาหรือข้อตกลงเกิดจากกรณีที่หน่วยงานรัฐมิได้ปฏิบัติตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติ กฎกระทรวง ระเบียบหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ ในส่วนที่ไม่เป็นสาระสำคัญหรือผิดพลาดไม่ร้ายแรงไม่ทำให้สัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเป็นโมฆะ
บทกำหนดโทษ
ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
	สรุปข้อมูลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การเติมความรู้และเพิ่มศักยภาพ การปฏิบัติงานในการขับเคลื่อน ววน. ระดับพื้นที่ ครั้งที่ 1
	ในหัวข้อ “กฎหมาย และระเบียบต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
	วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ณ ห้องอบรม 320  ชั้น 3 อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบัติ
	ทั้งนี้ ผู้อ่านโปรดศึกษากฎระเบียบ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่กล่าวในบทความเพิ่มเติม
	หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ